“หนึ่ง จักรวาล” ควงครอบครัวเปิดใจ ถูกปล่อยข่าวเปิดบ่อน ทำธุรกิจสีเทา ทำลายชื่อเสียง!

31

“หนึ่ง จักรวาล” โปรดิวเซอร์เพลงมือทอง ที่วันนี้ควงภรรยา “ตุ๊กติ๊ก เบญจวรรณ” และลูกสาว “น้องมินมิน” อายุ 11 ขวบ มาเปิดใจพร้อมกันครั้งแรก พร้อมเผยถึงวิธีการเลี้ยงลูกที่มีพรสวรรค์ด้านดนตรี ถูกส่งต่อผ่านสายเลือดให้กับลูกสาว และเปิดใจมรสุมดรามาหลังเจอคนปล่อยข่าวลือหวังทำลายชื่อเสียงว่าทำธุรกิจสีเทา เผยสิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยพ้นวิกฤต ในรายการ คุยแซ่บshow ทางช่องone31 ที่มี เป็กกี้ ศรีธัญญา และ อาจารย์เป็นหนึ่ง เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

ไม่เห็นพี่หนึ่งพาครอบครัวออกทีวีมานานมาก?
หนึ่ง จักรวาล : นานหลายปีอยู่

ตุ๊กติ๊ก : ไม่อยากไปออก อยากอยู่ข้างหลังให้เขาออกไปเถอะ

มีคนติดต่อมาเยอะ แต่เห็นว่าปฏิเสธทุกรายการเลย?
ตุ๊กติ๊ก : ค่ะ ส่วนใหญ่ก็ปฏิเสธ เพราะรู้สึกว่าเราไม่ใช่ศิลปินดารานะ

เห็นคลิปที่พี่หนึ่งไปแจมกับน้องที่ร้องเพลงเปิดหมวก แล้วพี่หนึ่งซื้อคีย์บอร์ดให้ มันกลายเป็นไวรัลเลย?
หนึ่ง จักรวาล : ไปงานกาชาด ไปช่วยเขาขายสลากเวลาทำบุญ เอาครอบครัวไป เสร็จแล้วชวนอาจารย์เป็นหนึ่งไปด้วย

ตุ๊กติ๊ก : เราไปในฐานะจิตอาสาไปช่วยงานกาชาด

หนึ่ง จักรวาล : พอตอนกลับอาจารย์บอกว่าเดินเล่นกันไหม จริงๆ พี่กะจะกลับบ้านกันแล้ว พอไปเดินใกล้ทางออกก็เจอน้องสองคนร้องเพลง ก็เดินเข้าไปดู ตอนแรกไม่มีใครดูน้องเลย เรายืนดูน้องร้องเพลงเพราะจังเลย เราดูแววตาน้องที่เล่นเปียโน แล้วดูน้องชายเขาร้องเพลง มันเหมือนสัญชาตญาณมืออาชีพเวลาเล่นแล้วเราจะคอยมองนักร้องว่าร้องล่มไหม ตรงนี้จะดึงจังหวะยังไง เราไม่เคยเห็นแบบนี้ พอยืนดูร้องเพราะจังเลย ก็เลยไปช่วยน้องเขาเล่น แต่คิดว่าน้องไม่รู้จักเราหรอก นักร้องงงเลย 9 ขวบเอง พอช่วยเล่นปุ๊บคนเริ่มมุง ลูกสาวกับอาจารย์เป็นหนึ่งก็ถือกล่อง ได้เงินเยอะอยู่ ตาเราเหลือบไปเห็นคีย์บอร์ดของน้องมันเก่า ตัวหนังสือลอกหมดแล้ว แทบจะหาไม่เจอแล้ว เราก็ถามคีย์บอร์ดเล่นมานานหรือยัง เขาบอกเล่นมานานแล้วครับ คุณพ่อซื้อให้เป็นสมบัติชิ้นสุดท้ายของพ่อ แล้วพ่อก็เสียไปแล้ว มันจุกอก

พอพี่หนึ่งบอกว่าจะซื้อคีย์บอร์ดให้น้อง พาไปซื้อเองเลยเหรอ?
หนึ่ง จักรวาล : พาไปซื้อเองเลยครับ ตอนแรกกะจะซื้อแค่คีย์บอร์ด แต่เราคิดว่าถ้ามีแค่คีย์บอร์ดกลัวเสียงไม่ดีเลยซื้อลำโพงให้ด้วย ซื้อขาตั้ง ซื้ออุปกรณ์ทุกอย่างให้น้องหมดเลย เราเคยได้โอกาสมาก่อน วันนึงที่เราได้โอกาส เราก็อยากให้โอกาสแก่คนที่ไม่มีโอกาส

การทำความดีคนชื่นชมก็เยอะ แต่กระแสด้านลบก็มี บอกว่า หนึ่ง จักรวาล สร้างคอนเทนต์ สร้างภาพหรือเปล่า อ่านแล้วรู้สึกยังไง?
หนึ่ง จักรวาล : ผมปล่อยผ่านนะ ผมว่าจริงๆ เราไม่ได้ตั้งใจ เราไปทุกที่เวลาเราเจอศิลปินเปิดหมวกเนี่ย ผมบอกลูก มินมิน เราต้องช่วยเหลือศิลปินด้วยกัน ก็จะให้เงิน ยืนดูสักพัก แล้วทำแบบนี้มาตลอด แต่ครั้งนี้เราไม่รู้ว่าใครถ่าย คนถ่ายเขาก็ส่งคลิปนี้มาที่อินบ็อกซ์ของผม ผมถึงลง ก็ทำตามสัญญาที่บอกว่าจะซื้อคีย์บอร์ดตัวใหม่ เรามองว่าไม่ใช่ใครก็ได้นะ แต่เขามีความพร้อมที่จะได้รับโอกาสนี้

เวลามินมินเห็นคอมเมนต์ลบๆ เกี่ยวกับคุณพ่อ อธิบายให้เขาฟังยังไงบ้าง?
ตุ๊กติ๊ก : เรื่องโซเชียลเป็นเรื่องที่อันตราย ดาบสองคม พอชมปุ๊บใจเราก็ฟู ด่าทอปุ๊บเราก็รู้สึกแย่ ก็บอกลูกนะว่ามีคนว่าป๊าหนูไม่ดี ถ้ามีคนมาว่าป๊าหนู หนูจะทำยังไง ตอนแรกเขาก็ตอบไม่ได้ เหมือนยังคิดไม่ออก แม่เลยบอกว่าไม่เป็นไร แต่หนูอย่าโกรธเขานะ หนูรู้ไหมทำไมหนูไม่ควรโกรธ

น้องมินมิน : พ่อหนูช่วยคนเยอะ แล้วพ่อหนูใจดีมาก หนูไม่สนว่าใครจะพูดยังไง เพราะว่าแค่พ่อรักหนูและหนูรักพ่อเท่านั้นก็พอแล้ว

บ้านพี่ดรามาเยอะมาก ล่าสุดบอกว่าพี่ทำธุรกิจสีเทา เปิดบ่อน?
หนึ่ง จักรวาล : ก็งงเหมือนกัน

ตุ๊กติ๊ก : อันนี้ไม่รู้มายังไง อยู่ๆ ก็มีอินบ็อกซ์เข้ามาในเพจพี่หนึ่งว่า เปิดบ่อนเหรอ พร้อมส่งลิงก์เพจมาให้ เราก็ตามไปที่เพจ ก็เลยเข้าใจที่มาที่ไป มันคือการสร้างเฟกนิวส์ขึ้นมา สมมติลูกค้าที่เราลงไปนานแล้ว แต่น้องเป็นเด็กตัวโต เขาก็เอามาแปะไว้แล้วเขียนคำอธิบายที่มันดูเกินจริง และไปในทิศทางลบ ทั้งๆ ที่รูปนี้ลงไปนานมากแล้วไม่มีปัญหาอะไร พอช่วงนั้นเอามาลงมันเลยทำให้คนอ่านที่เขาไม่รู้จักเรา พออ่านแล้วเชื่อ อิน คอมเมนต์ แชร์ เพียบเลย

เห็นว่ายอดแชร์ประมาณ 4-5 พันเลย?
ตุ๊กติ๊ก : แชร์เยอะมาก แล้วถี่ๆ ทุกๆ 10 นาทีเลย รู้ตัวคนปล่อยข่าวแล้ว

คิดว่าจะดำเนินคดีไหม?
ตุ๊กติ๊ก : จริงๆ เราดำเนินคดีไปในส่วนของการแจ้งความเอาไว้แล้ว แต่มันก็ได้ทำแค่นั้น เพจมันถูกเปิดจากเมืองนอก แล้วเขาก็โดนดำเนินคดีอยู่แล้วด้วย คือตัวเขาเดินทางกลับมาไม่ได้ เพราะเขาโดนคดีอยู่แล้ว แล้วเราก็เป็นคดีอีก 1 คดี เพราะเราถือว่ามันเป็นการสร้างเฟกนิวส์ แล้วปั่นเรื่องราวให้คนเข้าใจผิด กว่าเราจะรู้ในเรื่องราวเหล่านั้นว่า รู้แล้วว่าทำไมมันถึงดูเป็นเรื่องใหญ่โตแล้วไม่จบง่ายๆ แต่เราก็รู้สึกว่ามันผ่านไปแล้ว

มันกระทบกับงานเราไหม?
หนึ่ง จักรวาล : ไม่กระทบเลย ผู้ใหญ่เห็นว่าเราเป็นคนยังไง ทำงานยังไง ทุกคนเห็น แต่พอมีข่าวมาแบบนี้ตัวเราไม่ค่อยอ่าน เพราะเราทำงานเกี่ยวกับด้านบันเทิง ถ้าเราเสพสิ่งที่มันกระทบมากๆ เราทำงานเพลงมันต้องใช้ความรู้สึก ใช้จิตวิญาณ มันต้องมีตรงนี้ช่วย ถ้าเราอ่านข่าวลบๆ เรารู้แล้วว่าเราเป็นคนยังไง ถ้าคนไม่ชอบเรา มุมมองมันมีหลายมุมมองแล้วแต่คนคิด แต่เรารู้ว่าเราเป็นคนยังไง ทำอะไรบ้าง

ตุ๊กติ๊ก : สถานการณ์ตอนนั้นจากข้างนอกมันดูรุนแรง แต่ในบ้านโดยเฉพาะมินมิน ณ ตอนนั้น 9 ขวบ แต่รูปหลุดหรือคลิปที่โดนเอาไปใช้เราไปย้อนดู อนุบาล แต่เราก็ไม่รู้ว่าจะต้องไปอธิบายอะไรให้ใครเข้าใจ พอมองย้อนกลับมา เขาสดใส ร่าเริง มีความสุข ทุกอย่างปกติ แล้วพ่อไม่ใช่แค่พยายามหาเงินมาจ่ายนั่นนี่ ไม่ใช่ แต่เป็นคุณพ่อที่ทำทุกอย่าง ยกเว้นท้องกับคลอด ป้อนนมป้อนข้าว ล้างก้น ทุกอย่างเลย

ครอบครัวนี้ผ่านอะไรมาเยอะ แต่วันนี้ลูกสาวโตแล้ว คุณพ่อ คุณแม่ห่วงอะไรลูกบ้าง?
หนึ่ง จักรวาล : หวงมาก

ตุ๊กติ๊ก : ถ้าถามว่าห่วงเรื่องอะไร เราไม่ได้เกิดมาในบ้านที่ร่ำรวย เราใช้คำว่าดิ้นรนกว่าจะมีวันนี้ พอเราผ่านอะไรมาเยอะๆ ใช่ไหม เราจะมีเกราะกำบังให้ตัวเอง แล้วเราจะเรียนรู้ความอดทน ความพยายามต่างๆ พอเรามีลูก ในวันนี้เราเริ่มมีแล้ว ถ้าถามว่ากลัวอะไร กลัวลูกไม่ได้เรียนรู้ กลัวลูกไม่เข้าใจ แล้วเราไม่มีทางที่จะไปนั่งเล่าให้เขาฟังว่ามันลำบากอย่างนั้น อย่างนี้นะ เขาก็ได้แต่ฟัง แต่เขาไม่มีทางเข้าใจ สิ่งที่กลัวคืออยากให้เขามีเกราะ เราแค่กลัวไปเอง คิดไปเอง จริงๆ เขาอาจจะแข็งแกร่งมากกว่าที่เราคิดก็ได้ แต่มันเป็นความกังวลของพ่อแม่แหละว่าในวันที่เราไม่อยู่เขาจะสามารถดูแลตัวเองได้ไหม แล้วทุกวันนี้โลกมันน่ากลัว ขนาดเราผ่านอะไรมาเยอะ พอเราเจอสิ่งเหล่านี้เฟกนิวส์ต่างๆ กระแสข่าวแง่ลบ สื่อโซเชียลที่น่ากลัวในสมัยนี้ บางทีเรายังรับได้ยาก มันยังทำใจยากมากๆ แต่เราก็พยายามสตรอง ก็พยายามสอนเขาในทุกๆ วัน

อันนี้ใช่ไหมที่ทำให้พี่ตุ๊กติ๊กไม่สปอยลูกเลย?
ตุ๊กติ๊ก : ไม่เลยค่ะ

แต่ก็มีบางคนที่สปอยลูกมากจนทะเลาะกันเอง พี่หนึ่งทำไมถึงสปอยลูกขนาดนั้น?
หนึ่ง จักรวาล : จริงๆ อยากสอนดนตรีเขานะ แต่เรารู้อยู่แล้วว่าพ่อ แม่ ส่วนใหญ่จะสอนดนตรีลูกจะสอนยากมาก ทุกครอบครัวแหละทะเลาะกัน บางทีเจอพวกเพื่อนๆ อยากสอนลูก สอนไม่ได้ ต้องเอาลูกไปเรียนที่อื่น เราต้องหาวิธี ลูกอยากทำอะไร อยากทำสีผม มาเล่นเพลงนี้ อยากต่อเล็บ โห..ไม่อยากให้ต่อเลย เพราะว่าไปเรียน ต่อเล็บก็เล่นเปียโนไม่ได้ อยากต่อเล็บไปเล่นเพลงมา

ตุ๊กติ๊ก : มีกระบวนการความคิดแบบนั้นจริงๆ เหรอ

หนึ่ง จักรวาล : เห็นพออยากได้อะไรลูกไปใกล้ๆ แล้วกอดๆ หอมๆ เป็นอย่างนี้

มินมินใช้การอ้อนเหรอ?
น้องมินมิน : มันเรียกว่าเป็นแรงบันดาลใจในการเล่นเปียโน ในการเรียนให้ตั้งใจเรียนต่อไป

ในคลิปพี่หนึ่งสอนลูกเล่นเปียโนแล้วเอาผ้าปิดตา อันนั้นคือเทคนิคอะไร?
หนึ่ง จักรวาล : ตอนเด็กๆ หัดเล่นเปียโนแล้วก็ถ้าวันนึงเราไม่รู้อะไรเกิดขึ้นกับชีวิต ถ้าวันนึงเรามองไม่เห็นขึ้นมา สิ่งที่เรารักมาก เราจะเล่นได้ไหม พยายามหลับตาเล่นเมื่อก่อน มันก็เล่นผิด เล่นถูกบ้าง รู้เลยต้องใช้เวลาเยอะมาก วันนั้นเขามาอ้อนเอาขนมอะไรสักอย่าง แล้วเขาซ้อมอยู่ เลยบอกว่าถ้าปิดตาเล่นได้ เดี๋ยวจัดให้ เขาดันเล่นได้ จนเราตกใจว่า เห้ย…เล่นได้ยังไงวะ โอเคได้ของไป พอเขาขึ้นนอน เราเอาผ้าปิดตาลองเล่นบ้าง สรุปเล่นไม่ได้

ล่าสุดไปได้รางวัลอะไรมา?
ตุ๊กติ๊ก : มันจะมีการประกวดแข่งรายการนั้น รายการนี้ แต่มินมินไม่เคยไปแข่งอะไรกับเขาเลยตั้งแต่เด็ก เพราะว่าพ่อไม่ยอมสอนเปียโน กลายเป็นเราต้องไปจ้างเพื่อนตัวเองมาสอน แล้วพี่หนึ่งจะมาช่วยฝึก พอถึงเวลาที่มันมีประกวดแข่งอันนี้ ลองไหม ลองส่งไปก่อนว่าจะเข้ารอบหรือเปล่า ปรากฏเข้ารอบ ไปแข่งที่ฮ่องกง แล้วพ่อก็ไม่ว่าง ก็กลายเป็นแม่ ลูก แล้วก็ครูผู้สอน ทีนี้บอกเขาไว้ อันนี้เป็นเรื่องของสีผมเลย หนูขอโกรกผมมานานมาก แล้วหนูอยากทำสีผมเหมือนคนนั้น คนนี้ เพราะด้วยความเรียนโรงเรียนอินเตอร์ เพื่อนๆ ทำกันหมด แม่ก็พูดส่งๆ ไปว่า ถ้าอยากทำสีผม ได้แชมป์มาเดี๋ยวแม่ทำให้เลย

น้องมินมิน : ตอนแรกหนูไม่คิดว่าหนูจะได้ หนูก็บอกแม่ว่า หนูไม่ได้หรอก เมื่อไหร่หนูจะได้ย้อม แต่ปรากฏไปปุ๊บ ก็ได้

หนึ่ง จักรวาล : เพราะเขาไม่ค่อยซ้อมไง ไม่ได้ไป อยู่บ้านก็ภาวนา ขอให้แพ้ๆ

เพราะไม่อยากให้ลูกทำสีผม?
ตุ๊กติ๊ก : การทำสีผมก็รู้อยู่มันจะทำให้ผมเสีย ทำได้แหละ แต่ต้องรอให้โตกว่านี้หน่อย เราก็แบบ มันไม่ได้หรอก ไม่มีทางได้ จะบอกว่ารางวัลจะมีเหรียญทอง เหรียญเงิน เหรียญทองแดง รางวัลชมเชย จะได้ใบประกาศนียบัตร แต่แชมป์คือคะแนนรวมทั้งหมด พอดีว่าอยู่ดีๆ ก็ฟลุคได้แชมป์ขึ้นมา

ครอบครัวนี้เป็นสายมู คบกับซินแสเป็นหนึ่งมานานมาก นี่ก็คือเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจพี่อย่างนึง?
หนึ่ง จักรวาล : ใช่ครับ มูตั้งแต่ผมยังไม่มีชื่อเสียงแล้วเจออาจารย์เป็นหนึ่ง อาจารย์เป็นหนึ่งก็พาไปไหว้ จริงๆ ผมเป็นแบบนี้มานานแล้ว สายมูแล้วขอทุกที่ แต่มันมีอย่างนึงที่รู้สึกว่าจะมูยังไงให้ได้ มันต้องมีคนนำ

แล้วไปมูกันที่ไหนที่รู้สึกได้เลยว่าที่นี่มันปังมาก?
หนึ่ง จักรวาล : พม่า ครับ

อาจารย์เป็นหนึ่ง : จริงๆ จุดเริ่มต้นตั้งแต่ตอนแรกที่เราไปที่พม่า ไปทั้งหมด 40 กว่าคน เป็นศิลปินเบอร์ 1 หมดเลย เมื่อ 5 ปีที่แล้ว พอไปมูปั๊บพี่หนึ่งกลับมา พี่หนึ่งบอกว่าชีวิตดีขึ้น ทั้งงานอะไร พลิกชีวิตในรอบแรก หลังจากนั้นมารอบที่สอง พี่หนึ่งบอกเองว่าอาจารย์พาผมไปพม่าหน่อย

ที่ติดใจเพราะบ้านหลังแรกที่ได้มาเพราะมู?
หนึ่ง จักรวาล : ใช่ครับ มีการขอ เพราะบ้านเรามันไม่ใช่ทำแค่บ้าน มันมีห้องอัดด้วย

หลังแรกก็ไม่ธรรมดา แล้วเขาไปขอหลังที่สอง ทำไมพี่ถึงอยากกลับไปขอที่พม่า?
หนึ่ง จักรวาล : มันรู้สึกว่าขอแล้วได้ วันนั้นเราเดินรอบเจดีย์ชเวดากอง 3 รอบของาน พอเดินครบรอบที่ 3 ปุ๊บเสียงโทรศัพท์มาได้งานจริงๆ

ตุ๊กติ๊ก : ก็ของาน ขอให้หมดหนี้ มีลูกต้องเลี้ยง บ้านหลังที่สองก็ปิดแล้ว

บ้านหลังที่สองเพิ่งซื้อไม่ใช่เหรอ?
อาจารย์เป็นหนึ่ง : เขาปิดเรียบร้อยแล้ว

ของานแล้วได้งานเดี๋ยวนั้นเลย?
ตุ๊กติ๊ก : ไม่รู้มันบังเอิญหรือเปล่า เดินวนรอบที่ 3 เจาจะเรียกไปถ่ายรูป ปรากฏไลน์เข้ามาติดต่องานเลย ตอนนี้งานเราไปปลายปีแล้ว

ดูจากไทม์ไลน์แล้ว ณ ตอนนั้นมันมีกระแสเรื่องลบๆ พี่หนึ่งมาด้วย มันอาจจะทำให้งานดร็อปได้ แต่กลับพลิกว่าหลังจากไปไหว้แล้วกระแสไม่ค่อยดีก็จริงช่วงนั้น แต่กลายเป็นว่ามูแล้วปัง มูแล้วงานเข้าแบยไม่หยุดเลย ทุกรายการมีพี่ อันนี้เพราะมูเหรอ?
หนึ่ง จักรวาล : เพราะมูจริงๆ เวลาเราขออาจารย์จะบอกว่า ตรงนี้ขอเรื่องนี้นะ ตรงนี้ขอเรื่องเงิน ตรงนี้ขอเรื่องงาน ตรงนี้ขอเรื่องเมตตา ตรงนี้ขอเรื่องความรัก มันมีวิธีการขอ แล้วเราต้องรู้ด้วยว่าแต่ละที่ขอเรื่องอะไร

ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama