เปิดใจครั้งแรก “น้ำหวาน” รับเลิก “กวาง” เพราะแม่! เป็นคนกลางที่ไม่สามารถคอนโทรลอะไรได้

30

ออกมาเปิดใจตรงๆ ถึงสาเหตุเลิกรา สำหรับ “น้ำหวาน ซาซ่า” หรือ “น้ำหวาน พิมรา เจริญภักดี” ที่เผยผ่านรายการแฉเมื่อคืนวันที่ 18 ต.ค. ที่ผ่านมา ถึงสาเหตุแยกทาง “กวาง เอบีนอร์มอล” ศิริศิลป์ โชติวิจิตร โดยเจ้าตัวยอมรับว่าปัญหาเกิดจากตัวคุณแม่และสามี ที่แข็งทั้งคู่ ทัศนคติไม่ตรงกัน ส่วนตนเองเป็นคนกลางที่คอนโทรลอะไรไม่ได้

“ไปเที่ยวอันดามันใต้ ตอนไปสวีต ไปเมื่อวันที่ 11 ต.ค. ไปเที่ยวกันเอง ตามกำหนดการคืออยู่ 5 วัน ตอนนั้นก็รักกันดี อยู่บนเรือสักสองสามวัน ระหว่างทริปก็เลิกกัน เท้าความก่อนในความสัมพันธ์คุณแม่กับพี่กวาง ที่เป็นประเด็นกันอยู่ตอนนี้ คุณแม่กับพี่กวาง ตอนแรกพี่กวางขอหวานแต่งงาน คุณแม่ก็ไม่ปลื้ม เพราะรู้สึกว่าทุกอย่างค่อนข้างเร็ว 3 เดือนเองจะรู้จักกันดีไหม พอเวลาผ่านไป พี่กวางก็พิสูจน์ให้คุณแม่เห็นว่าพี่กวางเป็นคนดี น่ารัก เขาก็เริ่มรักกัน เวลาเขารักกันก็รักกันมาก คุณแม่เอาใจพี่กวาง ทำกับข้าว ดูแลน้องหมาที่เลี้ยงด้วยกัน เอาใจพี่กวางมากกว่าหวานอีก”

“แต่คุณแม่กับพี่กวาง ก็มีความเหมือนที่แตกต่าง สิ่งที่เขามีเหมือนกันคือความแข็ง เป็นคนแรงเหมือนกัน ตรงๆ เหมือนกัน แต่สิ่งที่แตกต่างคือทัศนคติ ซึ่งไม่สามารถลงดีเทลได้ บางทีเขาคิดเห็นไม่ตรงกัน ตลอดทางที่คบกันมา เวลาทัศนคติเขาไม่ตรงกัน แน่นอนเกิดความขัดแย้ง เราเป็นคนกลางก็เคลียร์ สองฝ่ายก็เคลียร์กัน แต่เราเป็นคนกลาง เราไม่มีวันรู้เลยว่าเขาเคลียร์กันเสร็จสิ่งที่สะสมหรือคั่งค้างอยู่ในใจสองคนมันออกมาหมดหรือยัง หรือเขาเก็บสะสมอะไรอยู่ ก็ดำเนินไปแบบนี้ตลอด”

“อย่างเรื่องที่ไปอันดามันด้วยกัน คุณแม่ก็ไปดำน้ำด้วย มันเป็นปัญหาน้ำผึ้งหมดเดียว สำหรับหวานคิดว่าน่าจะเคลียร์กันได้ ไม่น่ามีอะไรเป็นจุดแตกหัก แต่อย่างที่บอก เราไม่รู้มันมีอะไรที่สองฝ่ายสะสมไว้ในใจ ทำให้วันนั้นแข็งแล้วก็หันหลังให้กัน เราเป็นคนกลางก็ดิ้นเลยอยากให้เคลียร์กัน แต่เราทำได้จนสุดทาง ก็เลยมาคุยกับพี่กวาง”

“จริงๆ มันเกิดก่อนวันที่โพสต์ ว่าเรายังไงกันดี มันเป็นปัญหาที่เราพยายามแก้ แต่เราแก้ไม่ได้ เชื่อเถอะว่าเราพยายามแก้แล้ว คบกันเรามีจุดมุ่งหมาย เราไม่ใช่ตัดสินใจด้วยอารมณ์ วันนั้นก็ตกลงกันว่าเราจะลดสถานะเพื่อลดปัญหาที่เราแก้ไม่ได้ เมื่อแก้ไม่ได้เราก็ลดสถานะลง มันจะได้ไม่มีปัญหา อีกวันนึงเราก็คุยกันว่าเรายังยืนยันร่วมกันเหมือนเดิมไหม สรุปคือเรายังตัดสินใจร่วมกันแบบนี้อยู่ว่าเราจะลดสถานะ เขาก็ให้เกียรติหวานเป็นคนพูดก่อน ก็เป็นสิ่งที่ทุกคนได้รับทราบ ณ ตอนนั้น”

กลายเป็นแม่กับกวางโพสต์เซี้ยะกันไปมา?
“วันที่พี่กวางโพสต์ หวานนอนเล่นโทรศัพท์อยู่ มีข่าวคู่รักสายฟ้าแล่บเลิกเพราะมีนักศึกษา ทุกคนคงได้อ่านกัน หวานก็เข้าไปดูในคอมเมนต์ มีคอมเมนต์เป็นคู่หวานทั้งนั้นเลย หวานเลยแคปไปส่งให้พี่กวางดูทางไลน์ ว่าอันนี้มีชื่อพี่ ถ้าใช่ก็น่าจะเคลียร์ออกมาจะได้ไม่เป็นประเด็น เพราะเราเลิกกันไม่มีมือที่สาม ไม่อยากให้จับโยงว่ามีเรื่องมือที่สาม หวานเองก็รู้สึกไม่ดีที่หวานถามเขา เพราะหวานรู้จักเขาดีอยู่แล้ว แต่อาจด้วยความเห็นคอมเมนต์ ก็อยากให้จบไปเป็นเรื่องๆ ก็ส่งไปให้เขา ก็อยากให้เขาเคลียร์ ก็เลยเป็นที่มาของโพสต์พี่กวาง”

“อย่างเรื่องเฟซบุ๊กคุณแม่ ต้องบอกก่อนว่าหวานไม่ได้เล่นเฟซบุ๊ก ไม่ได้ฟอลโลว์คุณแม่ ไม่ได้เล่นเฟซบุ๊กเลย แต่เป็นเรื่องที่แซวคุณแม่ตลอดเพราะคุณแม่ชอบแชร์คำคมแบบนี้มาเป็นปีๆ แล้ว เขาเป็นคนสไตล์นี้อยู่แล้ว น้าใหม่ เพื่อนพี่กวาง หรือเพื่อนหวานที่ฟอลโลว์คุณแม่ ก็จะรู้อยูแล้ว ว่าเป็นความชอบส่วนตัวคุณแม่ในการแชร์แบบนี้มาเป็นปีแล้ว วันนั้นหวานตื่นขึ้นมา ก็มีคนส่งมาว่าเป็นประเด็นเพราะคุณแม่โพสต์ ก็ส่งไปถามว่ามีอันไหนที่เกี่ยวกับพี่กวางบ้าง คุณแม่ก็บอกว่ามีทั้งที่เกี่ยวและไม่เกี่ยว อันที่เกี่ยวคือตั้งแต่มารยาทเป็นต้นไป”

“อันนี้คุณแม่และหวานก็ต้องขอโทษด้วยที่ทำให้คนที่อ่านหรือทำให้พี่กวางเองไม่สบายใจ ก็ขอโทษไว้ ณ ที่นี้ด้วย แต่เป็นสไตล์การเล่นของคุณแม่จริงๆ คุณแม่ก็ชอบไปดูคำคมต่างๆ อันไหนโดนใจเขาก็แชร์ บางทีกินข้าวกันแม่ก็แชร์ ทุกคนก็ทราบ พี่กวางก็ทราบ แต่เราก็ต้องไปถามเพื่อความแฟร์ เป็นไทม์มิ่งพอดี แม่ก็บอกว่าขออภัยด้วย”

เลิกเพราะแม่?
“ไม่ได้เลิกกันเพราะคุณแม่ปัจจัยเดียว มันเกี่ยวกับปัญหาที่เราร่วมกันแก้ไข แต่แก้ไขไม่ได้ซะที ในชีวิตคู่จะมีปัญหาบางอย่างที่มันไปได้และไปไม่ได้ ก่อนเราทะเลาะและโกรธกัน เราลดระดับกันดีกว่า ซึ่ง ณ วันนี้หวานกับพี่กวางก็เป็นเพื่อนเป็นคนที่ปรารถนาดีต่อกัน เพราะตลอดหลายปีเราเริ่มจากความเป็นเพื่อน ณ วันนี้เราก็ยังมีความห่วงใย ปรารถนาดีให้กันอยู่ตลอดเวลา ทุกอย่างไม่เปลี่ยนไป”

“เวลาหวานกับพี่กวาง คุณแม่ช่วยให้สถานการณ์กลับมา จะบอกตลอดว่าไม่อยากให้เลิก ให้ลูกหายใจ นับหนึ่ง ให้สติเรา คุณแม่ค่อนข้างเป็นห่วงและหวงด้วย แม่ให้หวานตั้งสติ ไม่เคยยุให้เลิกเลย แม่ก็ห่วงความสัมพันธ์นี้ คุณแม่ก็บอกว่าให้ใจเย็นๆ เพราะคุณแม่ก็รักพี่กวาง พี่กวางก็ทราบ แต่ในแง่ทัศนคติบางอย่าง ที่แรงกับแรง ความยากของหวานคือหวานเป็นคนกลางที่ไม่สามารถคอนโทรลอะไรได้เลย จริงๆ พี่กวางขอหวานแต่งงานกันไป แล้วทำพิธีที่วัดบวร จริงๆ กำหนดการ 1 เดือนนิดๆ ก็จะเข้าพิธีแต่งงาน แต่ติดโควิดกันก่อน แม้แต่เรา ทุกคนได้รับผลกระทบกันหมด หลังโควิดพี่กวางกับหวานอยู่ในช่วงสร้างเนื้อสร้างตัว พิธีก็เลยไม่ได้จัด ก็เลยยังไม่ได้แต่งงาน”

“เราคบกันมานานตั้งแต่วันแรก หวานเชื่อว่าเราผ่านกระบวนการ การคิด การตัดสินใจร่วมกันอย่างดีมาแล้ว ไม่มีทางเอาอารมณ์ชั่ววูบหรือแค่อารมณ์ ณ เวลานั้นๆ เราเช็กกันแล้วว่าไม่มีทางออกที่ดีที่สุดร่วมกัน ตอนนี้ต่างคนก็ต่างหายใจหายคอ ใช้ชีวิตกันไป หวานกับพี่กวางไม่ได้โกรธกัน คุยกันได้ตามปกติ เหมือนพี่เหมือนน้องเหมือนเพื่อนค่ะ”

“ณ เวลานี้เราตัดสินใจร่วมกันว่าเวย์นี้ก็คือที่สุดสำหรับความรู้สึกของทุกฝ่าย คนกลางอย่างเราก็เข้าใจบริบทโดยรวมทั้งหมด หวานก็ขอขอบคุณในทุกๆ กำลังใจที่ส่งมาให้ทั้งตัวหวานและพี่กวาง และขอโทษทางครอบครัวหวานด้วย น้าใหม่ (ใหม่ เจริญปุระ) ก็โดนพาดพิงไปด้วย ขอโทษคุณพ่อคุณแม่ด้วย ที่อาจต้องมาอยู่ในปัญหาของเด็กๆ แบบนี้ ขอโทษคุณพ่อคุณแม่และครอบครัวพี่กวางด้วยที่มันเกิดปัญหาแบบนี้ สี่วันแล้วที่หวานนอนไม่ถึง 5 ชม. หวานก็ต้องขอโทษจริงๆ ที่ปัญหาของหวานมันรุงรัง ทำให้หลายคนเกิดปัญหาโดนกระทบไปหมด ก็ไม่สบายใจ แต่ก็ต้องไปต่อ แต่ดีที่เรามีกำลังใจจากทุกคนที่มอบให้เรา ก็เป็นพลังให้เราโอเคมากขึ้นในแต่ละวัน”

“พี่กวางกับหวานค่อนข้างสนิทกัน เราตกลงใจว่าเราจะยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันอยู่ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเลเวลความสนิท เกิดพี่กวางมีโอกาสมูฟออนก่อน ความสนิทก็ต้องลดลง หรือหวานมูฟออนก่อน ความสนิทก็ต้องลดลง เพื่อให้เกียรติอีกคนด้วย แต่ทุกวันนี้ก็คุยกันได้ ตอนนี้ก็หายใจหายคอกันโล่งขึ้น ทำให้สบายใจด้วยกันทุกคน อนาคตก็ตอบไม่ได้ แต่ตอนนี้โอเคค่ะ”