“แน็ก ชาลี” ตอบแบบนี้ว้าวุ่นเลย! อีก 5 เดือนครบ 3 ปี คบ “เก๋ไก๋ สไลเดอร์”

467

ทำเอฟซีว้าวุ่น ไล่เช็กไทม์ไลน์กันระนาว หลังจากที่ “แน็ก ชาลี” ออกมาเผยว่าอีก 5 เดือนก็จะครบ 3 ปีที่คบ “เก๋ไก๋ สไลเดอร์” ไม่ได้เพิ่งคบกันอย่างที่ทุกคนเข้าใจ พร้อมเผยอีกว่าคอมเมนต์ต่างๆ ทำให้ตนดูชั่วดี แต่ที่บอกออกไป เพราะไม่อยากให้ค้างคา

“ดีครับ ผมดูเป็นคนชั่วดี ผมชอบมาก อยู่วงการมา 20 ปี ทุกคนด่าผมหมดเลย ผมชอบไปนั่งอ่านคอมเมนต์ ไม่ต้องห่วงว่าผมฟ้องใคร คุณด่า ผมไม่เคยฟ้องคุณ ผมมั่นใจเลย ผมเป็นคนพูดหน้ากล้องหลังกล้อง ผมไม่ฟ้องก็คือไม่ฟ้อง บอกไว้เลยผมเป็นห่วงเพื่อนๆ ที่ไปคอมเมนต์นะ หลายคนผมไม่อยากให้ไปเมนต์ไม่ดีเลย เพราะยุคนี้นักแสดงอย่าว่ากันเลยนะ เขาใช้วิธีการฟ้องเงียบๆ นะ เพราะการฟ้องเป็นรายได้ทางนึงที่ดีมากๆ เลยนะ คือคุณไม่ต้องทำงานเลย”

“ถ้า 2-3 ปีที่แล้วถ้าผมฟ้องป่านนี้ผมสร้างตึกอะไรได้ทุกอย่าง แต่ก็จะมีคนรอบตัวที่บอกว่าอย่าไปฟ้องเลย แต่เราเห็นคนใกล้ตัวใครด่าแคปแล้วฟ้องหมด ก็เป็นห่วงหลายๆ คน แต่ตัวผมไม่ฟ้องแน่นอน ผมชอบการด่า การให้สติผมในวันที่ผมหลุด สติออกไปมันเป็นสิ่งที่ดีมากๆ มีคนตักเตือนผม แล้วก็อะไรที่ผมเลวพวกคุณก็ไม่ต้องสนับสนุนผม ผมมีข้อดีไหมก็มี ข้อเลวก็มี แต่ก็สนับสนุนกันในข้อดี ไม่สนับสนุนในข้อไม่ดีนะครับ”

“คือส่วนใหญ่ด่าผมเลวนะครับ แต่ไม่เป็นไรผมเปิดใจ เพราะผมเป็นคนที่พูดอะไรไม่ดี พูดอะไรกระทบเราก็ต้องยอมรับในสิ่งที่เราทำ แต่สำหรับผมถ้าให้เรียกย้อนได้ จริงๆ ผมก็ขอโทษแล้วกันถ้าพูดอะไรที่ไม่พอใจกับใครหลายคน แต่สำหรับผมคือผมอยากทำอะไรในแบบตัวของผม ไม่ต้องทำโน่นนี่ได้ใช้ชีวิตแบบเต็มที่ มันก็น่าจะมีความสุขขึ้น หลายๆ อย่างก็เป็นอะไรที่ดี จริงๆ ไม่ใช่ว่าไม่มีสติหรอก ผมเป็นคนที่โคตรมีสติจากที่ใครสัมผัสหรืออะไร แต่บางอย่างที่ผมไม่ได้อยากพูด ผมก็พยายามนิ่งหลายๆ อย่างเนอะ ผมไม่ชอบอะไรขุ่นเคือง มีแฟนคลับหลายที่เขาไม่รู้จริงๆ ว่าตอนนี้เป็นยังไงอะไร”

“แล้วผมต้องมารับคำถามนั้นเป็นร้อยเป็นพันจนไลฟ์ขายของก็ไลฟ์ไม่ได้ เพราะมีคนมาถามที 3-4 พันคนว่าเป็นยังไง เลยรู้สึกว่าเฮ้ย เราอย่าปล่อยให้มันค้างคานะ ถ้าเราแคร์คนพวกนั้นจริงๆ เราแคร์ทั้งเขา เราแคร์ทุกคน เราแคร์ทุกอย่าง ผมเลยรู้สึกว่ารักก็คือรัก วันไหนมันจบ เราก็ต้องบอกว่าจบ ไม่ใช่ปล่อยให้มันยืดเยื้อ ผมว่ามันไม่ใช่สิ่งที่ดีเลย แต่การพูดตรงๆ ของผมอาจจะดูเลว ก็เต็มที่เลยครับ ด่าผมได้เต็มที่ แต่ที่ผมพูดมันคือความจริงครับ และที่สำคัญที่สุดผมเป็นผู้ชายผมออกมาพูดในสิ่งของผมแล้วจริงๆ ทุกคนมีสิทธิพูดนะครับ ไม่ว่าจะเป็นเขา เป็นเพื่อนเขา หรืออะไร มันเป็นสิทธิได้หมดเลย”

“ถามว่าต้องบอกชาวเน็ตว่าฟังให้จบก่อนไหม โห ไม่ต้องไปฟังให้จบหรอกครับ ผมเห็นชาวเน็ตเขาไปตัดที่มันดูชั่วร้ายๆ ใจผมก็ยังย้ำว่าผมอาจจะมีมุมที่เป็นคนปกติ คนเลวบ้าง คนนิสัยไม่ดี แต่บางทีเรารู้สึกว่าเราไม่ได้อยากทำอะไรให้ภาพมันอย่างโน้นอย่างนี้ ไม่ใช่คำว่าสร้างภาพอย่างเดียว มันมีอะไรอีกหลายอย่าง หลายคนอาจจะเข้าใจว่าผมเพิ่งคบ เพิ่งเปิดตัว จริงๆ เราอยู่กันนานจนมันเกินคำโน้นคำนี้อะไรแล้ว ผมรู้สึกว่าอยากทำอะไรให้มันดูเป็นธรรมชาติ มันก็ดีนะสำหรับผม”

“ก่อนที่จะไปโยนโบว์ลิ่ง ก่อนหน้านั้นนานมาก จริงๆ ผมพูดตั้งแต่ครั้งที่แล้ว พยายามจะพูดให้มันจบไปแล้ว ผมว่าวันนี้เดี๋ยวมันก็มีคนไปโยงอะไรอีก แต่จริงๆ ถ้าใครรู้ อีกแค่ 5 เดือนมันก็จะครบ 3 ปีแล้วนะ เงียบมาก ช่วงที่เราได้ห่างกันบ้าง ได้ไปทำอะไรส่วนตัวกันบ้าง มันก็เป็นความสุขที่ความจริงมันก็ไม่ได้สั้นหรอก มันอยู่กันมานานแล้ว แต่ว่าตอนนี้ก็ถือว่าผมก็จะตอบแบบเอาหล่อบ้าง คนเรานะครับ ไลฟ์สไตล์ไม่ตรงกันนะครับ ความคิดเห็นไม่ตรงกัน ต่างแยกย้ายต้องไปทำงานนะครับ ขอให้ทุกคนมีความสุขครับ เราจบกันด้วยดีครับ ถ้าตอบแบบผมเหรอ ก็ไม่เป็นไรนะครับ เครียดๆ ก็ไปอ่านคอมเมนต์ด่า เอาเป็นว่าขอให้ทุกคนมีความสุข ใครจะพูดอะไรก็พูดได้นะครับ จะด่าผมก็เต็มที่เลย”

“ตอนนี้ก็ไม่ได้มีอะไรมากนะครับ เราก็ต้องรักษาการทำงานของเรา เราก็ต้องแคร์ลูกค้า เอาเป็นว่าผมขอโทษแล้วกันในบางทีที่ผมพูดจาตรงไป ไปกระทบอะไรไป แต่ผมก็รู้สึกว่าใครไม่ใช่ผม คุณไม่รู้นะว่าเราโดนถาโถมอะไรบ้าง จริงๆ ของขวัญอะไรผมก็มีให้ แต่เป็นเรื่องหนึ่งที่ผมไม่ชอบคือผมจะบอกตรงๆ เลยว่า ไม่ว่าผมซื้อของขวัญอะไรให้ อย่าไปลง อย่าไปถ่าย ผมรู้สึกว่าชีวิตผมไม่ได้ต้องการให้แบบต้องลงต้องถ่าย ผมขอให้มันเป็นความสุขที่ผมให้ในหลายๆ ครั้ง ในหลายๆ วัน อะไรที่พิเศษผมอาจจะบอกว่า โอ้ย ผมไม่ให้อะไรหรอก อาจจะทำดูกวนตีน แต่จริงๆ เราก็มีให้เขา หลายคนเห็นที่เขาก็พยายามพูดออกมาว่า พูดได้ไหม ผมก็จะเบรกไว้ก่อน ไม่เป็นไร ผมอยากให้มันดูเป็นธรรมชาติที่สุด”

“ถามว่ามีการปรับตัวระหว่าง 3 ปีไหม คืออีก 5 เดือนมันจะถึง 3 ปี แต่ว่าช่วงหลังที่เรากลับมาจริงจัง ผมเนี่ยโคตรจริงจังเลย ผมบอกเลยว่าผมจริงใจมาก ทุกเรื่อง ทุกอย่าง ผมบอกเลยว่าผมจริงใจและตั้งใจมาก หลายอย่างเลยที่เรามีการคุยกัน และเราก็อยากทำให้เขามีความสุข ผมพยายามปรับเปลี่ยนอะไรเยอะแยะมากมาย แต่ในเมื่อต้องเป็นแบบนี้ในทางเลือกของแต่ละคน ก็ขอให้ทำงานกัน เราต่างคนต่างก็ทำงานของตัวเองให้ดีที่สุด ก็เป็นอะไรที่ดีที่สุดแล้ว”

“เอาจริงๆ ผมโคตรอายเลยนะ แต่ก่อนผมไม่เคยคิดเรื่องแต่งงานเลยนะครับ อาจจะมองเป็นเรื่องตลก เรื่องไร้สาระ คนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องเล่นๆ แต่ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าสิ่งนี้มันเกิดกับคนที่ไม่เคยคิดจะแต่งงานได้ตลอดเลยนะ คำถามผมอาจจะดูตลกเล่นๆ ไร้สาระนะ แต่จริงๆ แล้วผมมีความคิดนั้นเหมือนกันนะพอเรากลับมาจริงจังตั้งใจทุกอย่าง เขาอาจจะมองเป็นเรื่องเล่นๆ ก็ได้ ใครอาจจะมองว่าเป็นเรื่องไร้สาระก็ได้ ไม่เป็นไร แต่พอผมอายุ 30 มันก็เป็นไปตามอายุที่คนพูดจริงๆ นะ ไอ้ตอนนั้นอาจจะยังไม่คิด แต่พอถึงเวลาจริงก็มีโมเมนต์นั้นเหมือนกัน”

“การคบของผมต้องดูว่าสองคนจริงใจกันจริงๆ และอยู่แล้วรู้สึกว่ามั่นคงจริงๆ ที่เราจะเปิดตัวได้ มันอาจจะมีที่เขาไม่พร้อม เราไม่พร้อม แต่พอวันนึงผมคิดว่ามันถึงเวลาที่พร้อมแล้ว ก็น่าจะมีความหลงตัวเองของผมด้วยที่อาจจะคิดไปเองฝ่ายเดียว โดยที่เราอาจจะไม่รู้ตัว เราก็รู้ว่าครั้งนี้เป็นอะไรที่พร้อมทุกอย่างจริงๆ เราจะลุยโน่นลุยนี่ เอาเป็นว่าสัมภาษณ์ครั้งนี้เสร็จคงโดนด่าอีกตรึมเลย”

“ถามว่าเขาจะออกงานแล้ว เตรียมรับแรงปะทะยังไงบ้าง ผมขอให้เขาพูดเลย เอาเพื่อนเขามาเลย เอาเพื่อนผู้จัดการอะไรเขามา เหมือนเพื่อนเขาก็ไปโพสต์รูปลง เหมือนผมหลงตัวเองไปอีกว่าเขาไปโพสต์รูปรองเท้า ใครเห็นก็ไปดูแล้วกัน อะไรที่ไม่ดีก็ว่าผมได้เต็มที่ครับ”