เดินหน้าฟ้องเรียกค่าเสียหาย 10 ล้านกับสาวมือที่สาม ที่ทำให้ชีวิตครอบครัวพัง สำหรับ “จูน เพ็ญชุศรี” ภรรยานักร้องดัง “หนุ่ม กะลา” โดยงานนี้มีคนตั้งคำถามว่า ที่ฟ้อง 10 ล้านจะได้จริงหรือไม่ แล้วมาจากอะไร เจ้าตัวก็กางข้อกฎหมายเล่าให้ฟัง
‘ฟ้อง 10 ล้านจะได้จริงไหมแล้วมาจากอะไร?’ โดยมีรายละเอียดดังนี้
‘คำตอบ : ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1523 วรรคสอง บอกว่า กรณีที่สามีเราไปมีชู้ และหญิงชู้แสดงตนโดยเปิดเผยให้บุคคลอื่นทราบ เราในฐานะที่เป็นเมียที่จดทะเบียนสมรสมีสิทธิเรียกค่าทดแทนได้ ซึ่งคำว่าค่าทดแทน หมายความว่า “เงิน” เงินที่ต้องชำระเป็นค่าเสียหาย โดยศาลจะกำหนดเป็นเงินก้อน หรือชำระเป็นผ่อนเป็นงวดก็ได้ ตามาตรา 1525 ซึ่งคำว่า “ค่าทดแทน” คือ ทดแทนความเสียหายที่เสียใจ ที่เจ็บปวด อะไรทำนองนี้ ซึ่งหลัก ๆ ดูจากอะไรบ้าง
1. ดูระยะเวลาคบหาอยู่กินกัน และจดทะเบียนกันมาแล้วกี่ปี
เหตุที่ดู เพราะระยะเวลาอยู่กินนานส่งผลถึงความเสียหายที่มากกว่า เพราะคนที่อยู่กันนาน ๆ ย่อมรักกันมากถึงอยู่กันนานถึงเพียงนี้ และระยะเวลาที่คบหากันนานย่อมส่งผลถึงภาระหนี้สิน ทรัพย์สินต่าง ๆ ที่ต้องจัดการกันยุ่งยาก เรื่องของเวลาถึงเป็นเรื่องที่สำคัญ (ภาพการคบหา การออกงานสังคม ภาระหนี้สินต่าง ๆ ทรัพย์สินต่าง ๆ )
2. มีการแต่งงานกันใหญ่โตหรือไม่ ผูกข้อไม้ข้อมือหรือไม่
เหตุที่ดู เนื่องจากการแต่งงานเป็นการประกาศให้คนทราบ ยิ่งงานแต่งใหญ่ยิ่งเสียหายเยอะ เพราะคนทั่วไปจะรู้จักทั้งสามีภริยาคู่นี้มาก จึงนำมาซึ่งค่าเสียหายที่ได้มากกว่าคนไม่จัดงานเลย (หลักฐานที่ใช้ คือ ภาพงานแต่ง แขกมาร่วมงาน การ์ดเชิญ)
3. เมียหลวงกับสามีมีบุตรด้วยกันหรือไม่
เหตุที่ดู เพราะการเป็นชู้ย่อมส่งผลถึงการไม่ราบรื่นในครอบครัว และส่งผลต่อบุคคลในครอบครัว และบุคคลที่ได้รับผลกระทบอีกคนย่อมเป็นบุตรของสามีภริยาคู่นั้น ดังนั้นมือที่สามย่อมต้องรับผิดชอบเพิ่มมากขึ้น และมากกว่าคนที่ไม่มีบุตร (สูติบัตรบุตร บัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน)
4. ฐานะ อาชีพ การศึกษา
เหตุที่ดู อาชีพบางอาชีพย่อมรู้จักคนเยอะย่อมเป็นหน้าตาทางสังคม ฐานะที่ร่ำรวยย่อมเสียหายมากกว่าคนที่มีฐานะไม่ดี การศึกษาก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คนมีคุณค่าราคาที่สูงกว่า ดังนั้น ใครมีมากกว่าย่อมเสียหายมากกว่า ดูทั้งฐานะเมียหลวง สามี เมียน้อย และญาติ ๆ (หลักฐาน เกียรติบัตรต่าง ๆ วุฒิบุตรต่าง ๆ หนังสือรับรองบริษัท งบการเงิน หนังสือรับรองเงินเดือน รายได้ บุตรข้าราชการ ตำแหน่งต่าง ๆ หามา)
5. ดูความราบรื่นในครอบครัว ก่อนและหลังการมีชู้
เหตุที่ดู ดูจากก่อนที่มีชู้ หรือมือที่สามเข้ามาครอบครัวราบรื่นอย่างไร ต่อมาเมื่อมีชู้แล้วชีวิตพังอย่างไรบ้าง พังมากก็ได้มาก พังน้อยก็ได้น้อย (หลักฐานใบแจ้งความ มีการทำร้าย ภาพบาดแผล ภาระหนี้สิน ความไม่มีความสุขของครอบครัว)
6. การกระทำของชู้และสามัญสำนึกของชู้ ระยเวลาที่เป็นชู้
เหตุที่ดู ข้อนี้สำคัญที่สุด เพราะหากชู้เจตนากระทำให้แพร่ขนาดให้คนทราบมากย่อมเสียหายมาก และจำนวนครั้งที่กระทำความผิด ก็ย่อมทำให้เสียหายมาก และการเยาะเย้ยถากถางทำให้เสียน้ำใจอย่างไร ก็ต้องนำมาแสดง มีมากจ่ายมาก มีน้อยจ่ายน้อย เป็นเรื่องปกติ (หลักฐาน ภาพถ่ายการอวดอ้าง การเยาะเย้ย ข้อความด่าทอ อื่น ๆ รวมถึงการมีบุตรของชู้กับสามี การซื้อของให้แก่กัน การดูแลกันที่ดี ใบเสร็จต่าง ๆ อื่น ๆ) ระยะเวลาที่เป็นชู้ยิ่งนานยิ่งเสียหายมาก
7. ผลกระทบต่อเมียหลวงโดยตรง
เหตุที่ดู ประเด็นนี้ส่งผลมาจากการเป็นชู้ เมียหลวงบางคนอาจต้องรักษาจิตเวช อาจเสียงานเสียการ เสียค่าใช้จ่ายในการหาข้อมูล ดำเนินคดี อื่น ๆ สิ่งนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ศาลจะนำมาคำนวณเป็นค่าทดแทนด้วย (หลักฐานใบรับรองแพทย์ การรักษา ใบเสร็จเดินทาง อื่น ๆ)
8. ฟ้องหย่าสามีมาด้วยหรือไม่
เหตุที่ดู ถ้าท่านฟ้องหย่ามาด้วย ศาลขจะมมองว่าท่านใช้สิทธิได้เพียงครั้งเดียว เพราะหย่าแล้วจะฟ้องเมียน้อยอีกไม่ได้เพราะไม่มีทะเบียนสมรส อันนี้จะให้มาก แต่ถ้าไม่หย่าแสดงว่าท่านสามารถฟ้องได้หลายครั้ง ตราบใดที่มีทะเบียนสมรส ศาลเลยจะให้เป็นครั้ง ๆ ไป เพราะท่านใช้ได้หลายครั้ง จึงให้น้อยกว่ามีการฟ้องหย่าร่วมด้วย (ดูจากคำฟ้องได้)
เพิ่มเติม ท่านฟ้องคดีท่านคิดว่าเสียหายอย่างไร อันไหนมีหลักฐานก็นำมา ไม่ว่าหลักฐานนั้นจะเป็นภาพถ่าย คลิปวิดีโอ คลิปเสียง ข้อความ หลักฐานการโอนเงิน หลักฐานการโทร ใบเสร็จค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ใบรับรองแพทย์หรือหน่วยงานต่าง ๆ ฯลฯ ศาลจะดูทั้งหมด และในสมัยนี้ศาลมักจะให้ค่าทดแทนที่สูงมาก เพื่อเป็นการลงโทษผู้กระทำความผิด
ตัวอย่างฎีกาเกี่ยวกับการพิจารณาค่าทดแทน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6558/2542
การที่จำเลยกับป.สามีโจทก์ พักอาศัยอยู่ในบ้านเดียวกันในท้องที่ย่านชุมนุมชน โดยเปิดเผย และมีความสัมพันธ์ฉันสามีภริยาจนมีบุตรด้วยกัน โดยบุตรก็ใช้นามสกุล ของ ป. ด้วยนั้น เป็นพฤติการณ์ที่แสดงโดยเปิดเผยว่าจำเลยมีความสัมพันธ์กับ ป.ในทำนองชู้สาวแล้วโดยไม่จำเป็นต้องออกงานสังคมร่วมกับ ป. แต่อย่างใด ตามปกติภริยาย่อมต้องรักใคร่หวงแหนมิให้สามีไปมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับ หญิงอื่นเว้นแต่จะมีเหตุผลพิเศษอย่างยิ่ง โจทก์มีความรักและหวงแหน ป. ผู้เป็นสามีถึงกับต้อง ย้ายจากจังหวัดนครศรีธรรมราชติดตามมาอยู่กับ ป. ที่จังหวัดจันทบุรีและยังไปร้องเรียน ต่อผู้บังคับบัญชา ป.ให้ว่ากล่าวตักเตือน ป.ให้ยุติความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับจำเลยด้วย ไม่ปรากฏว่ามีเหตุผลหรือพฤติการณ์พิเศษอย่างใดที่โจทก์มีความจำเป็นต้องยินยอมให้จำเลยมาเป็นภริยาของ ป. อีกคนหนึ่ง เมื่อจำเลยแสดงตนโดยเปิดเผยว่ามีความสัมพันธ์กับ ป. ในทำนองชู้สาวโดยโจทก์มิได้ยินยอมเช่นนี้ โจทก์จึงมีสิทธิเรียกค่าทดแทนจากจำเลยได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1523 วรรคสอง ค่าทดแทนที่ภริยาเรียกจากหญิงอื่นที่แสดงตนโดยเปิดเผยเพื่อแสดงว่าตนมี ความสัมพันธ์กับสามีในทำนองชู้สาวนั้น พิจารณาจากความเสียหายที่ภริยาพึงได้รับ พฤติการณ์แห่งคดีและสถานะของคู่สมรสเป็นหลัก โจทก์สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัย มหิดลประกอบอาชีพรับราชการนับว่าเป็นผู้มีเกียรติฐานะในวงสังคม โจทก์กับ ป.สมรส กันมานานถึง 10 ปี มีบุตรด้วยกัน 1 คน สถานะของครอบครัวมีความมั่นคงสมบูรณ์ การกำหนดให้จำเลยใช้ค่าทดแทนแก่โจทก์จำนวน 100,000 บาท นับว่าเหมาะสมแล้ว
#ทนายชายพัฒน์ #ทนายเมียหลวง #ทีมเมียหลวง’