แวดวงอาหารถูกเขย่าขึ้นอีกครั้ง เมื่อเชฟบุญธรรมกลับมาพร้อมฝีมือที่ยากจะต้านทาน โดยได้นำเสนออาหารฟิวชั่นที่ผสมผสานความเป็นญี่ปุ่นและตะวันตกได้อย่างลงตัวจนเอาชนะผู้ท้าชิงในรายการเชฟกระทะเหล็กประเทศไทย เมนูที่เชฟบุญธรรมรังสรรค์ขึ้นไม่เพียงสะกดทุกสายตาของผู้ชมที่ติดตามอยู่หน้าจอเท่านั้น แต่ยังทำให้คณะกรรมการถึงกับอึ้งในความอัจฉริยะด้านการปรุงรสและเทคนิคที่ไร้ที่ติ จนได้รับฉายา “New Face of Chef Boontham!”
ผู้ชมทั้งประเทศต่างพากันตะลึงกับความสามารถของเชฟบุญธรรมในการผสมผสานวัตถุดิบจากสองวัฒนธรรมอาหารที่ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้ ให้กลายเป็นเมนูที่ไม่เพียงดูสวยงาม แต่ยังเต็มเปี่ยมไปด้วยรสชาติที่ซับซ้อนและลงตัวจนเกินคาด เมนูที่โดดเด่นและสร้างความประทับใจในครั้งนี้ ได้แก่ เซบิเซไข่ปลาแซลมอนทาร์ตแคร็กเกอร์, นัตสึเด็งแลมบ์โชลเดอร์, จระเข้ราตาตูยเม็นไต, แลมบ์ช็อปสุกียากี้ซอส, ซุปอังกิโมะบัตเตอร์นัตสควอช, และแซลมอนซอสนมปูบัลซามิกสลัด แต่ละจานเป็นการแสดงถึงความคิดสร้างสรรค์และความสามารถในการผสมผสานวัฒนธรรมอาหารที่หลากหลายได้อย่างน่าทึ่ง นี่คืออีกหนึ่งความสำเร็จที่ตอกย้ำความเป็นอัจฉริยะในวงการอาหารของเชฟบุญธรรม
เชฟบุญธรรมไม่เพียงเป็นเชฟที่เก่งกาจและสร้างสรรค์เท่านั้น แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้เชฟรุ่นใหม่ที่กำลังไล่ตามความฝันในสายอาชีพนี้ เขาได้แสดงให้เห็นว่าการกล้าที่จะคิดนอกกรอบและผสมผสานวัฒนธรรมที่แตกต่างกันอย่างสร้างสรรค์สามารถนำไปสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ ธุรกิจร้านอาหารของเขาก็เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบัน “เชฟบุญธรรม ภาคโพธิ์” เชฟกระทะเหล็กอาหารญี่ปุ่น ดำรงตำแหน่งผู้บริหารร้านอาหารแบรนด์ “HONMONO SUSHI” ที่มีสาขาทั้งหมด 9 แห่ง กระจายอยู่ในพื้นที่สำคัญของกรุงเทพฯ ได้แก่ ทองหล่อ ซอย 23, อารีย์ สัมพันธ์ ซอย 1, สยาม พารากอน ชั้น G, เซ็นทรัล เอ็มบาสซี ชั้น 5, เซ็นทรัล เวิลด์ ชั้น 7, เซ็นทรัล พระราม 9 ชั้น 7, เซ็นทรัล ลาดพร้าว ชั้น 4, เซ็นทรัล บางนา ชั้น 5 และเมกะ บางนา ชั้น 1 นอกจากนี้เขายังดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาผู้บริหารแบรนด์ “OSHINEI” ร้านอาหารญี่ปุ่นทั้งแบบบุฟเฟ่ต์และอลาคาท ที่มีทั้งหมด 27 สาขา กระจายอยู่ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยในภาคกลางมี 6 สาขา ได้แก่ นครสวรรค์, สุพรรณบุรี, ลพบุรี, อยุธยา, นครปฐม และฉะเชิงเทรา ภาคอีสานมี 13 สาขา ได้แก่ อุบลราชธานี, อุดรธานี, โคราช (2 สาขา), สุรินทร์, ขอนแก่น, มุกดาหาร, บุรีรัมย์, ร้อยเอ็ด, สกลนคร, นครพนม, มหาสารคาม และศรีสะเกษ ภาคเหนือมี 4 สาขา ได้แก่ เชียงใหม่, เชียงราย, พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ ภาคตะวันออกมี 2 สาขา ได้แก่ ระยองและชลบุรี ภาคใต้มี 1 สาขาในหาดใหญ่ และยังมีสาขาต่างประเทศอีก 1 แห่งในกรุงเวียงจันทน์ ประเทศลาว ไม่เพียงเท่านั้นยังเตรียมขยายไลน์อาหารใหม่สไตล์ปิ้งย่างด้วยการเปิดตัวแบรนด์ “OSHINEI YAKINIKU & SASHIMI” ที่จะเปิดให้บริการสาขาแรกที่เซ็นทรัล อุบลราชธานี ในวันที่ 6 กันยายนนี้
ไม่แปลกใจเลยที่เชฟบุญธรรมกลายเป็นที่พูดถึงและได้รับการยกย่องในฐานะเชฟที่ประสบความสำเร็จและกล้าฉีกกฎเกณฑ์เดิม ๆ ของวงการอาหาร การแข่งขันครั้งนี้ไม่เพียงแค่แสดงให้เห็นถึงความเก่งกาจและความเชี่ยวชาญของเขา แต่ยังเปิดประตูสู่การสร้างสรรค์ที่ไร้ขีดจำกัดในวงการอาหาร ความสามารถของเชฟบุญธรรมในการผสมผสานวัฒนธรรมและเทคนิคการปรุงอาหารได้อย่างลงตัว เป็นแรงบันดาลใจให้ผู้ชมรู้สึกตื่นเต้นกับอนาคตใหม่ของวงการอาหารที่กำลังจะมาถึง ผ่านฝีมืออันเป็นเอกลักษณ์และสร้างสรรค์ของเขาอย่างแท้จริง! สำหรับผู้ที่พลาดชมการแข่งขัน สามารถรับชมย้อนหลังได้ทางยูทูปในรายการ “เชฟกระทะเหล็กประเทศไทย ONE-ON-ONE BATTLE 2024 | EP.23 | เชฟบุญธรรม VS Chef Fernando Bravo 17 ส.ค. 67” อย่าพลาดติดตามลีลาการปรุงอาหารที่น่าตื่นตาตื่นใจ และสัมผัสกับศึกอาหารสุดยิ่งใหญ่ที่คุณไม่ควรพลาด! https://youtu.be/1YHMeiFKS9g?si=dOooewAFpseQ-NRE