หลังจากที่ติ๊กต๊อกเกอร์สาวเกาหลี “จีกามิน” อดีตคนรู้ใจ “แน็ก ชาลี” ตัดสินใจกลับมาเมืองไทยอีกครั้งเพื่อพิสูจน์ความจริงพร้อมนัดสื่อเปิดใจถึงเรื่องดรามาทั้งหมด โดยชี้แจงประเด็นต่างๆ ทั้งประเด็นเลิกกับแน็ก ซึ่ง กามิน ยืนยันว่าจบกันด้วยดี รวมถึงเคลียร์ข่าวลือร้ายๆ ต่างๆ มากมายว่าไม่เป็นความจริง โดยไม่เอ่ยถึงชื่อ แน็ก ชาลี เลย
– กามินขอบคุณสื่อมาร่วมงานแถลงข่าวในวันนี้ และแฟนๆ ที่มาในวันนี้ ไม่อยากให้มีเหตุการณ์ในวันนี้ แต่ต้องออกมาปกป้องตัวเองและครอบครัวและคนที่ตนรัก ต้องการออกมาพูดความจริงให้ทุกคนรู้ว่าอะไรที่ไม่ใช่ความจริงบ้าง
– ครั้งแรกที่เข้ามาทำงานที่เมืองไทย เดือนมกราคม มีความสุขมาก ดีใจมาก มีหลายคนต้อนรับอย่างอบอุ่น เข้ามาทำงานอย่างมีความสุขและสนุกมาก โดยเฉพาะครอบครัวใจดีมาก แม้จะมีปัญหาเรื่องการติดต่อสื่อสารกันบ้างก็ตามเพราะตนไม่เข้าใจภาษาไทย แต่ทุกคนใจดีจนทำให้เข้าใจกันได้
– สำหรับค่าตอบแทนที่ได้จากการทำงานไม่ได้มีปัญหา ได้รับการจัดสรรที่ดีมาก ที่พักตอนที่ทำงานในประเทศไทย เดือนมีนาและเมษา กามินอยู่ที่โรงแรมและมีสตูดิโอ มีบ้างที่ไปบ้านของอีกฝ่าย (แน็ก ชาลี) ความสัมพันธ์ในช่วงนั้นกับอีกฝ่ายที่ตนไปพักอาศัยด้วย ครอบครัวให้การดูแลและการต้อนรับอย่างดี จนตอนนี้ยังรู้สึกขอบคุณมากๆ อยู่ตลอด
– สำหรับเรื่องข่าวตอนไปอยู่โรงแรมแล้วเกิดปัญหาขึ้นคือ โรงแรมที่ตนพักไม่ได้จองเอง เป็นบริษัทของอีกฝ่ายจองโรงแรมให้ในระหว่างที่ทำงานในประเทศไทย อีกฝ่ายสามารถตรวจสอบเช็คได้ถ้าหากมีบุคคลอื่นเข้ามา เพราะทางโรงแรมมีกล้องวงจรปิด น่าจะเช็คได้ ตนไม่ได้มีคีย์การ์ดเข้าโรงแรมคนเดียว อีกฝ่ายก็มีคีย์การ์ดเช่นกัน หากตนต้องการจะพาคนอื่นมา จะไม่นัดพบที่โรงแรมนี้ เพราะไม่ใช่โรงแรมที่ตนจองเอง ไม่ได้มีแค่ตนที่มีคีย์การ์ด ก็จะไม่นัดพบที่นี่
– ข่าวที่ออกมาจนถึงตอนนี้ไม่มีความจริง เรื่องที่ตนติดแอลกอฮอล์ รับดื่มแอลกอฮอล์เพื่อสังสรรค์บ้าง ตอนที่มาประเทศไทยก็มีดื่มบ้าง แต่ไม่ได้ดื่มบ่อย และไม่เคยดื่มขณะที่ทำงาน
– ค่าจ้างในการรับงานอีเวนต์ที่ประเทศไทย ไม่ทราบเลยว่าทางผู้ว่าจ้างจะจ้างเท่าไหร่ จะได้รับจากทางบริษัทอีกที ซึ่งตนพอใจในค่าจ้างและรู้สึกขอบคุณมากๆ ส่วนเรื่องของภาษี ค่าจ้างจากบริษัทจะมีการหักภาษีเรียบร้อย และค่าจ้างที่เข้าบัญชีจะมีการหักภาษีที่เกาหลีด้วย ค่าจ้างได้รับทุกวันที่ 1 ของทุกเดือน ไม่ได้มีปัญหาเรื่องการรับค่าจ้าง เพราะอีกฝ่ายดูแลมาอย่างดีตลอด
– ยืนยันไม่มีปัญหาเรื่องงานหรือว่าเรื่องภาษี ไม่มีอะไรแล้ว เงินที่ได้แต่ละเดือนจะมีการหักภาษีเรียบร้อย เงินภาษีที่ไทยจ่ายหมดแล้ว ส่วนของเกาหลีจะต้องไปจ่ายในปีหน้า ค่าจ้างจากการไลฟ์ 1 ล้านบาท ไม่ใช่ความจริง สำหรับการไลฟ์ 1 ครั้ง ได้ 1 ล้านบาท เพิ่งได้ยินข่าว เพิ่งจะได้รู้ความจริง
– เรื่องไฟไหม้บ้าน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคือ วันนั้นตนออกไปช้อปปิ้งกับล่าม ช้อปปิ้งเสร็จก็กลับไปที่บ้านพร้อมผู้จัดการ พอเข้าบ้านได้กลิ่นไหม้ พอขึ้นไปที่ชั้น 3 เป็นห้องที่ไฟไหม้ ไปถึงไฟดับเรียบร้อยแล้ว บ้านหลังนั้นตนอยู่กับอีกฝ่าย ทรัพย์สินมีค่าที่เห็นในบ้านหลังนั้นมีของมีค่า ของสำคัญ แต่ตนก็ไม่ได้ทราบเพราะไม่ใช่บ้านของตน ตนไม่ทราบจริงๆ ว่าเหตุการณ์ไฟไหม้เกิดขึ้นได้อย่างไร
– ส่วนคำพูดที่ว่า คนไทยหลอกง่าย ตนไม่เคยพูดหรือเคยคิดเช่นนั้น ตนได้รับความรักจากคนไทย จึงไม่กล้าคิดหรือพูดคำนี้กับคนไทย ไม่รู้ว่าคำนี้มาจากที่ไหน และตนไม่ทราบว่าคำพูดนี้มาจากใคร ต้องไปถามคนที่พูดประโยคนี้ เพราะตนไม่มีเหตุผลที่จะพูดประโยคนั้นกับใคร
– คำพูดอย่างเช่น สก๊อยเกาหลี สุวรรณมาลี หรือคำพูดต่างๆ เมื่อได้ฟังตนรู้สึกเสียใจ เพิ่งมารู้ความหมายของคำพวกนี้เมื่อไม่นาน ไม่กล้าบอกพ่อแม่ด้วยเพราะกลัวท่านเสียใจ ไม่ทราบว่าทำไมถึงมีคนที่ใช้คำพูดที่ร้ายแรงนี้กับตน และทำไมถึงต้องใช้คำพูดเหล่านั้นกับตน ตนและครอบครัวไม่ใช่แก๊งต้มตุ๋น และไม่เคยมีประวัติอาชญากรรมที่เกาหลี
– ประวัติการศึกษาเรียนทางด้านการเต้นมาโดยตรงตั้งแต่มัธยม ไปเรียนต่อในอุดมศึกษาด้านการเต้นโดยเฉพาะเพราะมีความฝันอยากเป็นครูสอนเต้น และเดินทางไปกรุงโซลเพื่อเรียนระดับปริญญาโท และทำงานอยู่ 5-6 ปี
– ตั้งแต่กลับไปที่เกาหลี ก็ไม่เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อใดเพื่อกล่าวร้ายกับใคร แม้กระทั่งมาที่นี่ก็ไม่ได้พูดว่าร้ายใคร ไม่เคยพูดคำหยาบ ตอนที่มีคอมเมนต์ไม่ดีออกมา ตนคิดว่าน่าจะมีจิตใจเข้มแข็ง ก็เสียใจเมื่อได้เห็นคอมเมนต์แย่ๆ หยาบคาย พี่ชายของตนที่เป็นข้าราชการที่เกาหลี ก็ลามาดูแลสภาพจิตใจของตนในตอนนั้น
– ข่าวของตนตั้งแต่กลับเกาหลีไปก็ยังมีอยู่ออกมาอยู่ตลอด การมาเมืองไทยก็ได้เรียนรู้หลายอย่าง ขอบคุณทุกคนที่รัก ขอบคุณแฟนๆ ที่รัก และตนก็รักคนไทยตรงๆ และขอบคุณมากๆ ที่ให้ความรักและความอบอุ่นกับตนตลอด
– เรื่องความสัมพันธ์กับอีกฝ่าย ตนคิดว่าคนเราจะมีความเข้าใจที่แตกต่างกันบ้าง ด้วยเรื่องของภาษาที่ทำให้เข้าใจกันได้ยาก เรื่องเล็กๆ น้อยๆ เลยทำให้มีปัญหาและเลิกกันกับอีกฝ่าย การคบกันไม่ได้มีปัญหาที่ใหญ่ แต่ตัวกามินที่ไม่เข้าใจภาษาไทย ทำให้ไม่เข้าใจกัน แต่ไม่มีปัญหาใหญ่ๆ ในความสัมพันธ์ ไม่มีเรื่องของบุคคลที่ทำให้เลิกกัน เป็นความไม่เข้าใจเล็กๆ น้อยๆ ที่ทำให้เลิกกัน ตนก็พยายามอย่างเต็มที่ตลอด และก็เห็นความพยายามของอีกฝ่ายตลอด อีกฝ่ายดูแลอย่างเต็มที่มาตลอด
– ความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นกับอีกฝ่ายเป็นแบบคู่รักด้วยกัน ตอนนั้นได้รับข้อความให้เลิกกัน จึงรู้สึกว่าไม่มีทางอื่นนอกจากการกลับไปที่เกาหลี เป็นข้อความจากอีกฝ่ายที่เคยทำงานด้วยกัน ความรู้สึกที่มีต่ออีกฝ่ายตอนนี้ไม่ได้รู้สึกในแง่ลบ พยายามคิดถึงแต่แง่ดีตลอด
-ด้วยปัญหาเล็กๆ น้อยๆ ที่มีหลายอย่าง ไม่น่าจะเกิดจากความหึงหวง แต่เป็นปัญหาเล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่สามารถที่จะปรับเข้าหากันได้ แต่สำหรับกามินเป็นความรักที่จริงใจ ตั้งแต่ที่เลิกกัน ก็เลิกกันเด็ดขาด จบแล้ว ไม่มีอะไรติดค้าง เลิกกันอย่างเคลียร์ใสสะอาดดี มีการอำลาฝั่งครอบครัวและทีมงาน แต่เป็นการลาสั้นๆ ส่วนกับอีกฝ่ายไม่ได้มีการร่ำลากัน ณ วันนั้น
-อีกฝ่ายเคยติดต่อมา แต่ไม่รู้ว่าติดต่อมาด้วยเรื่องอะไร อยากจะขอบคุณอีกฝ่าย สำหรับทุกอย่าง ขอให้ทานข้าวเยอะๆ ดูแลสุขภาพ และมีความสุขมากๆ ขอบคุณมากค่ะ
– ได้รับข้อความข่มขู่ตนและครอบครัวจริงๆ และมีข้อความแบบนั้นเยอะ มีเข้ามาอยู่ตลอด ช่วงเดือน 9 มีข้อความข่มขู่เยอะ
– ถ้าถามว่าจะกลับมาทำงานที่ไทยหรือไม่ ตนยังไม่รู้ว่าจะกลับมาได้หรือเปล่า แต่พอกลับมาก็ยังเห็นคนที่รักและสนับสนุนตนอยู่ ถ้าสภาพจิตใจดีขึ้น และมีโอกาสก็อาจจะกลับมาทำงานที่นี่อีก
– คดีแม่ตั๊ก กามินไม่ได้มาเพื่อชี้แจงเพราะไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไร
นอกจากนี้ กามิน ยังเตรียมฟ้องคนไทย 5 คนข้อหาหมิ่นประมาทอีกด้วย