แฟนๆ บ่นผิดหวังกันทั่ว หลังตอนจบละคร “พรหมลิขิต” เหมือนถูกตัดจบดื้อๆ ตัวละครบางตัวหาย แถมบทยังทำให้พระเอกอย่าง “พ่อริด” พลิกจากพระเอกเจ้าเสน่ห์ รักเดียวกับ “พุดตาน” กลายเป็นถูกก่นด่าทั่วบ้านทั่วเมือง เพราะไม่ยอมต่อสู้เพื่อความรักที่มีต่อพุดตาน แถมยังยอมถวายแฟนตัวเองให้ “ขุนหลวงท้ายสระ” ด่าหนักละครบ้ง ตกม้าตายตอนจบ
ล่าสุด ก็เกิดดราม่ากรุ่นๆ กับผู้เขียนบทละครมือฉมังของวงการบันเทิงอย่าง “อาจารย์แดง ศัลยา สุขะนิวัตติ์” ที่จู่ๆ ก็ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ยันบทละครเหมือนนิยายทุกประการ พร้อมแจกแจงเป็นข้อๆ
“พรหมลิขิต 2566
ยกที่หนึ่ง
พรหมลิขิตตอนจบรวบรัดเกินไป นิยายเขียนคำว่า “จบบริบูรณ์ “ หลังจากฉากแต่งงานของพ่อริดเและพุดตาน ต่อจากนั้นนิยายเขียนว่า “ตอนพิเศษ”ความยาว 4 หน้าหนังสือ ในเมื่อเป็นตอนพิเศษ จึงไม่เพิ่มไม่ลดไม่เปลี่ยนแปลงใดๆ
บทละครจึงเหมือนนิยายทุกประการ คำว่ารวบรัดเกินไปจึงขอมอบให้ตอนพิเศษของนิยายเรื่องนี้
ยังมียกต่อๆ ไป
1) คาแรกเตอร์ของพ่อริด เรื่องนี้ต้องพูดกันยาว
2) คาแรก เตอร์คนอื่นๆ : ไม่เหมือนนิยายแน่หรือ
3) ตัวละครหาย : คนเขียนบทหรือนิยายกันแน่ที่ทิ้งตัวละคร
4) เหตุการณ์พุดตานถวายตัวที่ไม่มีในนิยาย : ทำไม
5) บทอาฆาตแค้นของจันทราวดีต่ออทิตยาที่หายไป : เพราะอะไร
6 ศรีปราชญ์ : ตัวละครเจ้ากรรมตั้งแต่บุพเพสันนิวาส : มีและไม่มีเพราะอะไร
7) การเคารพบทประพันธ์และการเคารพวิถีการเขียนบทละคร : ศาสตร์ที่แตกต่างกัน
8) บทละครเหมือนนิยาย หรือต่อยอดจากนิยาย เป็นสัดส่วนเท่าไหร่ : ต้องคำนวณ
9) การวิพากษ์วิจารณ์รวบยอดที่รุนแรงและไม่เป็นวัตถุวิสัย
ขณะที่ “รอมแพง” หรือ “จันทร์ยวีร์ สมปรีดา” ก็ได้เผยถึงเรื่องนี้ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว บอกให้ตำหนิตัวเองได้เลย น่าจะเป็นนิยายที่ไม่ดีพอจะทำเป็นละคร
“ขอน้อมรับความผิดพลาดของนิยายพรหมลิขิต ที่ทำได้ดีที่สุดเท่านี้ และน่าจะไม่ดีพอที่จะทำเป็นละคร จึงทำให้ทีมละครโดนวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมาก เป็นความผิดของดิฉันเองค่ะ
หลายท่านอาจจะไม่พอใจที่ทีมทำละครโดนวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก โดยที่ดิฉันเหมือนลอยตัวจากการวิพากษ์นั้น จากการที่ดิฉันพิมพ์และพูดอยู่เสมอว่า หลังขายเป็นละครแล้วแทบจะไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับการทำงานของทีมละครเลย นอกจากจะมีการขอคำปรึกษาจากทีมงาน และต้องให้เกียรติคนทำงาน เพราะศิลปะการนำเสนอของละครกับนิยายแตกต่างกัน”…
ซึ่งประโยคเหล่านี้เป็นสิ่งที่ดิฉันพูดมาเป็น 10 ปีในการไปเป็นวิทยากรทุกแห่ง จากการที่นิยายได้ทำเป็นละครมาหลายเรื่อง แน่นอนว่าดิฉันไม่มีปัญหากับการดัดแปลงเพราะเข้าใจเป็นอย่างดีในศาสตร์ที่ต่างกัน แต่อาจจะมีความเสียดายในเนื้อหาหรือคาแรกเตอร์ที่เปลี่ยนไปบ้างแต่ก็ไม่ใช่ความเสียใจที่ขายเป็นละครอย่างแน่นอน
ดังนั้นแบ่งความคิดเห็นที่ตำหนิจากความผิดหวังในสิ่งที่คาดหวังจากละครมาทางดิฉันได้เลยค่ะ เพราะถ้าไม่โดนตำหนิหรือวิพากษ์วิจารณ์เสียบ้าง ก็จะไม่ทำให้เกิดการพัฒนาขอบคุณมากนะคะ รอมแพง”
ต่อมารอมแพงก็ได้เข้าไปเมนต์ใต้โพสต์ของแดง ศัลยา ระบุว่า “อุ้ยต้องกราบขอโทษป้าแดงด้วยนะคะ ที่นิยายของอุ้ยมีความผิดพลาดขาดพร่องจนทำให้ป้าแดงทำงานยาก และต้องดัดแปลงจนทำให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์มากขนาดนี้ รวมไปถึงความอ่อนด้อยในการตอบคำถามของพิธีกรและนักข่าวก็ยิ่งสร้างความลำบากใจให้กับทีมละคร เป็นความผิดของอุ้ยเองค่ะ กราบขออภัยเป็นอย่างสูงค่ะ อุ้ย รอมแพง”