หัวอกแม่ทีมหมูป่า! ดีใจวันนี้จะได้เจอหน้าลูก!เผยหน่วยซีลเตรียมติดสายโทรศัพท์ให้ทุกคนได้คุยกับครอบครัว กู้ภัยเตรียมบวชแก้บน!

819

หลังจากที่เฮกันทั้งประเทศ ค้นพบ 13ชีวิตติดถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ. เชียงราย เมื่อค่ำคืนวันที่ 2ก.ค. ที่ผ่านมา ล่าสุดรายการโหนกระแสวันที่3ก.ค. โดย หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย”ในฐานะผู้ดำเนินรายการ ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลาใหม่ 13.30-14.10 น. ทางช่อง 28 ได้เปิดใจสัมภาษณ์ “คุณโทน ทองสุขแก่น”ประธานมูลนิธิสยามนนทบุรี rescuerescue tdnk

คุณโทน เป็นทีมแรกที่เข้าถึงพื้นที่?

โทน : “ต้องบอกว่าเป็นทีมแรกๆ แล้วกัน ทีมผมที่อยู่ในจ.เชียงรายก็มี เข้าไปดำน้ำเป็นทีมแรก”

น้องหายวันเสาร์ที่แล้ว?

โทน : “ถูกต้อง น่าจะเสาร์หรืออาทิตย์นี่แหละ เป็นทีมแรกที่เข้าไปมาร์กจุด นั้นคือจุดที่เพิ่มมาร์กไว้”

วันนี้ช่วยน้องได้แล้ว?

โทน : “ดีใจมากเมื่อคืนพอทราบข่าวเหมือนยกภูเขาออกจากอก น้ำตามันไหล ผมร้องไห้เลย ผมเป็นคนจ.นนท์ เป็นทีมแรกที่เดินทางไปถึงพื้นที่เป็นตัวแทนของคนนนท์และเป็นตัวแทนกู้ภัยที่เข้าไปในพื้นที่ เพราะผมประเมินสถานการณ์แล้วว่าน่าจะเป็นเรื่องใหญ่ประเมินจากภาพไลน์กรุ๊ป ผมประเมินว่าต้องเป็นเรื่องใหญ่ ผมเลยรีบไป”

ในมุมคุณเอง เมื่อวานกลับมาแล้วช่วยได้ สัญญาณมีมั้ยว่าจะช่วยได้?

โทน : “เวลาผมโพสต์เฟซบุ๊ก แล้วมีคนถาม ผมบอกตลอดว่าผมมีหวังเสมอ มีหวังทุกวันตลอด 8 วัน เราต้องให้กำลังใจทีมทำงานทุกคน ไม่ว่าทหารตำรวจพื้นที่ เบื้องต้นท่านผู้ว่าราชการท่านเก่งมาก ท่านวางแผนและเชื่อในข้อมูล ท่านวิเคราะห์ในข้อมูลได้ขาด ท่านบอกเลยว่าขาดเหลืออะไรมาแชร์ข้อมูลกันและร่วมกันทำงาน”

ได้เจอนักดำน้ำสองท่านที่พบน้องๆ มั้ย?

โทน : “ได้เจอวันแรกที่ผมลงพื้นที่ ต้องบอกก่อนว่าผมเป็นทีมกู้ภัยอาสา ของผม 500 กว่าชีวิตที่มาลงทะเบียนที่ผมการลงทะเบียนหรือตัวผมไปตั้งศูนย์บัญชาการอาสา ทุกคนทางทีมจีนหรือต่างประเทศหลายๆ ทีมเขามาลงทะเบียนกับผม เพราะผมเป็นส่วนบริหารจัดการของอาสา เพราะฉะนั้นผมตั้งระบบไอซีเอสขึ้นมา ผมใช้ชื่อปฏิบัติการครั้งนี้ว่ากู้ภัยอาสา พาน้องกลับบ้าน ซึ่งรวมทีม ไม่ใช่แค่มูลนิธิผมมูลนิธิเดียว”

ความเก่งกาจของเขา?

โทน : “ตอนแรกที่เห็นเขา เรารู้เลยว่านี่คือโปรเฟสชั่นแนล คุณมืออาชีพ แต่เราวิเคราะห์ด้วยตัวเรา เขาบอกว่าถ้ำมันเล็กมาก เราวิเคราะห์อุปกรณ์เขาเทพเลย แต่เรากังวลว่าเขาตัวใหญ่ เขาเป็นฝรั่ง แต่วันนี้เขาทำให้เห็นแล้วว่าร่างกายเขาไม่เป็นอุปสรรค”

ก่อนทั้งสองท่านได้มีการช่วยเหลือน้องๆ ทั้ง 13 คน ก่อนหน้านี้เคยช่วยมาก่อน 4คน?

โทน : “ไม่รู้ว่าชุดเดียวกันหรือเปล่า แต่เป็นฝรั่งเหมือนกัน ไปช่วยออกมาก่อนชุดนึง น่าจะช่วยนักขุดเจาะบาดาล ที่ท่านผู้ว่าฯ บอกว่าหายไป 4คน แต่ไม่รู้ทีมนี้หรือเปล่า”

ความยากลำบากเรื่องการพาน้องกลับบ้าน?

โทน : “ด้วยประสบการณ์การทำงาน เบื้องตันน้องติดตรงนั้นเกือบ10วัน การขาดอาหาร ร่างกายจะเริ่มเอาสารอาหารมาใช้หลังจาก 3 วันแรกที่กินมื้อสุดท้ายไป อันนี้ต้องเป็นเรื่องการแพทย์ ตอนนี้กู้ภัยเราจะทำยังไงให้น้องออกมาโดยไม่มีผลกระทบกับร่างกาย เราต้องชื่นชมโค้ชนะ เท่าที่เห็นเขาบอกให้น้องนั่งสมาธิ นอนนิ่งๆ กินน้ำหยดจากผนัง เราต้องชื่นชมโค้ช เขามีประสบการณ์ในการดำรงชีวิตจริงๆ ถ้าควบคุมไม่อยู่มันเตลิด เพราะคุณเจออุปสรรคคือความมืด อากาศออกซิเจนก็บาง ถ้าใช้แรงมากปุ๊บจะไปเรื่อยๆ นี่คือสิ่งที่ต้องชื่นชมโค้ช”

เรื่องอาหาร?

ทน : “เท่าที่เราพอมีความรู้ มื้อแรกจากการอดอาหร ควรกินอาหารที่เบาบางที่สุด อาหารที่ให้พลังงานที่ดีคือพาวเวอร์เจล เป็นซองใช้จิบเอา แล้วให้พลังงานสูง เหมือนกล้วยหอม สามารถเอาไปใช้พลังงานได้เลยโดยไม่ต้องผ่านระบบการย่อย ซึ่งนักกู้ภัยมีติดตัวทุกคน”

ลำเลียงไปให้น้อง?

โทน : “ใช่ ล่าสุดต้องแยกผู้ป่วย น้องยังไม่เข้าวิกฤตสีแดง ถ้าแพทย์ประเมินว่าทานข้าวได้ก็ไม่เป็นไร”

อัตราการเจ็บป่วย มีเขียว เหลือง แดง?

โทน : “เขียวคือร่างกายปกติ น้องมีเหลืองไม่กี่คน นิดๆ หน่อย หนึ่งน้องเป็นนักกีฬา น้องอายุน้อย ประกอบโค้ชเก่ง บอกให้อยู่นิ่งๆ นั่งสมาธิ ร่างกายมีการต่อต้านเพื่อเอาสารอาหารในร่างกายมาใช้ เพื่อไม่ให้เกิดภาวะช็อกหรือเสียชีวิตอยู่แล้ว”

สิ่งหนึ่งที่ต้องชมโค้ช เรื่องโทรศัพท์หรือไฟฉาย ให้ใช้ทีละกระบอก?

โทน : “เขามีระบบการจัดการที่ดี เราต้องชื่นชมนะครับ วันนี้ถ้าทุกคนมีความรู้จากการบริหารจัดการ การเอาชีวิตรอดจากเหตุการณ์แบบนี้ เราต้องถอดบทเรียนตรงนี้มาเพราะอีกหน่อยหลักสูตรกู้ภัยจะเพิ่มหลักสูตรนี้โดยอัตโนมัติ เพราะไม่เคยได้เรียนรู้ว่าถ้าหลงถ้ำต้องทำยังไง”

ก็ถือวาเป็นวิกฤติที่จะเป็นโอกาสให้คนหลังๆ ได้รู้?

โทน : “ใช่ครับเราต้องถอดบทเรียนตรงนี้แล้วทำเป็นหลักสูตรการเรียนรู้ เวลาเกิดขึ้นจะได้ป้องกัน และดูแลตัวเองได้”

อยู่ในสายกับคุณรอน ที่ปรึกษากลุ่มกู้ภัยอาสาพาน้องกลับบ้าน ตอนนี้อยู่ในพื้นที่ เรื่องการลำเลียงน้องอกมาเพื่อพาน้องส่งรพ. มียุทธวิธีหรือการคาดการณ์ยังไงบ้าง?

รอน : “ในเบื้องต้นวิธีที่จะเอาออกเท่าที่มองเห็น น่าจะพาน้องออกจากถ้ำทางเดิม คือดำน้ำออกมา แต่ลักษณะการดำน้ำ น้องๆ สามารถหายใจได้ปกติโดยใช้หน้ากาก แต่ด้วยความที่น้องติดมา 10วันต้องให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น มีการฝึกใช้ร่างกาย ทางซีลจะให้ดำออกมาทางนั้น แต่ก็ยังเป็นห่วงว่าถ้าน้องดำแล้วเกิดอาการตื่นตระหนกจะมีปัญหามั้ย เราก็ยังไม่ทราบ เรายังมีการหาปล่องบนภูเขา ต้องฝึกให้น้องรู้วิธีใช้และดำน้ำไปแล้วต้องทำยังไง”

ใช้เวลาอยู่ในถ้ำเพิ่มขึ้น?

รอน : “ใช่ครับ น่าจะเป็นอย่างนั้น”

ถ้าสูบน้ำออกมาให้หมด?

รอน : “ตอนนี้ทุกคนพยายามทุกวิถีทาง ทั้งเรื่องสูบน้ำเอง ถ้าเราสูบน้ำได้จำนวนเยอะๆ ปริมาณน้ำในถ้ำก็จะลดลง แต่เนื่องจากอากาศตอนนี้ ฝนตกเกือบทุกวันจริงๆ เอาแน่เอานอนกับธรรมชาติไม่ได้”

สิ่งที่จะเกิดขึ้นได้คือต้องศึกษาวิธีการเรียนรู้เรื่องการดำน้ำออกมา?

รอน : “แต่ก็มีคนประคองเขามาอยู่แล้ว ดูเรื่องการใช้หน้ากาก”

ความยากลำบากก็มีเพราะเป็นช่วงคอคอด ถ้าออกมาต้องมีวิธีอีกเยอะ?

รอน : “ใช่ครับ ผมมองว่าทางหน่วยซีลเองก็น่าจะมีการวางแผนเอาไว้หมดแล้ว”

อีกหนึ่งช่องทางที่จะพาน้องออกมาคือทางปล่อง?

รอน : “ตอนนี้ทีมพยายามค้นหาในพื้นที่ว่าช่องตรงไหนสามารถเข้าไปได้ เมื่อวานนี้มีทีมไปดูแล้วน่าจะมีช่องที่ไปได้ถึง วันนี้แบ่งทีมไปตรวจสอบอีกรอบ ถ้าเจอช่องที่เข้าไปได้ เราก็สามารถนำน้องขึ้นมาด้วยระบบเชือก สามารถนำน้องออกมาได้เลย ตอนนี้เป็นส่วนเจ้าหน้าที่ทหารและหน่วยซีล ถ้าเจอก็ต้องวางแผนระบบ เจาะ และมีเจ้าหน้าทีที่เชี่ยวชาญในชั้นหิน ว่าจะมีความเป็นไปได้มั้ย แต่ถ้าหาไม่เจอก็ต้องทางเดียวคือให้หน่วยซีลช่วย”

พูดถึงขวัญกำลังใจ ในฐานะคุณโทนลงพื้นที่มาสัปดาห์ที่แล้ว มีเรื่องครูบาชุ่มไปทำพิธีเปิดถ้ำ?

โทน : “เรื่องท่านครูบาชุ่ม กระแสดรามาโน่นนี่นั่น แต่จริงๆ จะถูกผิดหรือใช่ไม่ใช่ มันเป็นเรื่องของขวัญและกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ในการทำงาน ให้ญาติพี่น้องพ่อแม่เขา ต้องใช้ทุกทาง คือไสยศาสตร์มันพูดไม่ได้ แต่เป็นพิธีกรรมที่สืบทอดกันมา มันเป็นความเชื่อมจะไปลบหลู่ความเชื่อเขาไม่ได้ ใครไม่เชื่อก็ไม่เป็นไร แต่อย่างน้อยได้ขวัญและกำลังใจขึ้นมา”

คุณทนอัศจรรย์ใจ พอท่านไปปุ๊บฟ้าเปิด?

โทน : “ตอนที่ท่านนั่งพิธีสวดมนต์ฟ้าเปิดเลย ตอนแรกฝนปรอย ฟ้าเปิดแล้วเมฆเป็นวง มีรุ้งขึ้นด้วย ถามว่าเป็นเรื่องน่าแปลกมั้ยก็เป็นเรื่องน่าแปลก อย่างน้อยก็เป็นขวัญและกำลังใจ เหมือนที่บอกผมนอนตีห้าตื่นหกโมง มีความหวังทุกวัน ไม่เคยสิ้นหวัง”

อยู่ในสายกับแยม ฐปนีย์ เมื่อวานร้องไห้?

แยม : “ทุกคนดีใจและน้ำตาซึมกันแม้แต่ผู้ว่าฯ เอง เจ้าหนาที่ทุกฝ่ายปฏิบัติงานที่ได้ทราบข่าวว่าได้พบตัวน้อง ทั้ง 13คนและทุกคนปลอดภัย บรรยากาศที่นี่ยิ้มทั้งน้ำตา เพราะตลอด 10 วันที่ผ่านมา ทุกฝ่ายทุกคนทำงานเต็มที่ในการเข้าไปค้นหาน้องๆ ในถ้ำหลวง ข่าวนี้ออกไปทั่วโลก เมื่อวานทันทีที่ทราบข่าวก็มีข่าวด่วนจากสำนักข่าวต่างประเทศทั่วโลก เป็นบรรยากาศที่ทำให้ทุกคนหายเหนื่อยกับ 10 วันที่ผ่านมาไม่หลับไม่นอนเพื่อให้เจอน้องๆ แต่ภารกิจยังไม่จบ ท่านผู้ว่าฯ บอกว่าน้องยังอยู่ในจุดที่อยู่ลึกน้ำ การเข้าไปถึงจุดนั้น มีนำท่วมและยากที่จะเข้าไป หน่วยซีลและนักประดาน้ำที่ระดมมาจากต่างประเทศ รวมนักประดาน้ำในไทยรวมแล้ว 100กว่านาย ตอนนี้ยังอยู่ในถ้ำหลวง หน่วยซีลอยู่ในถ้ำหลวงยาวๆ ก็ 4 วันแล้วตั้งแต่ไปตั้งฐาน จนเจอน้องๆ แล้วมีนักประดาน้ำที่เข้าไปทำการติดตั้งขวดอากาศ ไปจนถึงจุดที่เจอน้องๆ ระยะทางประมาณ 1กิโลเมตรกว่าๆ แล้ว จุดที่น้องไปอยู่เขาเรียกว่าเนินนมสาว อยู่ห่างหาดพัทยาไป 400 เมตร เพราะหาดพัทยาน้ำท่วมค่ะ เป็นจุดหนึ่งที่เจ้าหน้าที่คาดการณ์ หากหาดพัทยาน้ำท่วม เด็กน่าจะไปอยู่ที่นั่น เพราะฉะนั้นการไปค้นหามีพื้นที่เป้าหมาย 2 จุด เมื่อวานการที่หน่วยซิลชุดล่วงหน้ากับชุดนักประดาน้ำอังกฤษที่เข้าไปกับหน่วยซีล ในชุดแรกก็เข้าไปประมาณ 5โมงเย็น เจอน้องๆ 21.45นาที ที่เราเห็นในคลิป มีเสียงนักประดาน้ำชาวอังกฤษ เพราะเขามีถังออกซิเจนที่ไปได้ไกลกว่าหน่วยซีลของเรา เลยเข้าไปจุดนั้นเจอน้องๆ ก่อน แต่เขาก็เข้าไปด้วยกัน ถือเป็นการทำงานร่วมกัน โดยการนำของหน่วยซีลทหารเรือไทยของเรา”

ณ ตอนนี้มีทีมแพทย์ถึงตัวน้องหรือยัง?

แยม : “เข้าไปแล้วค่ะ น่าจะถึงตัวน้องแล้ว แต่ยังไม่มีรายการงานกลับมาว่ามีรายละเอียดยังไงบ้าง เพียงแต่ว่าท่านผู้ว่าฯ บอกว่ามีทีมแพทย์ ทีมพยาบาลเวชศาสตร์เข้าไปแล้ว นำอาหารที่เป็นข้าวเหนียวหมูทอด เอาเข้าไปให้น้องๆ ได้ทานเจลอาหารก่อน ข้างในนั้นน้องได้อยู่กับแพทย์ หมอภาคย์ ทีมซีล และที่สำคัญคือการลากสายเพื่อติดตั้งขวดอากาศ ให้เจ้าหน้าที่ซีลไปติดตั้งโทรศัพท์ ลากสายโทรศัพท์ไปตั้งติดโทรศัพท์ภายในจุดที่พบน้องๆ เพื่อให้น้องๆ ได้คุยกับคุณพ่อคุณแม่ เมื่อสักครู่ได้คุยกับคุณแม่น้องตี๋ คุณแม่อยู่ในการดูแลของเจ้าหน้าที่ มีการขอความร่วมมือไม่ให้คุยกับสื่อมวลชนมาก เพราะว่าอยู่ในการปรับสภาพจิตใจ แต่เมื่อสักครู่คุณแม่ออกมาได้คุยกับแยม 1 คนคือแม่น้องตี๋ ถามคุณแม่ว่าได้คุยทางโทรศัพท์กับน้องหรือยัง คุณแม่บอกว่ายังไม่ได้คุย รอเจ้าหน้าที่แจ้งอีกครั้งหนึ่ง คุณแม่ยิ้มสดใสขึ้น ดีใจที่ลูกปลอดภัย และถามว่าหากได้คุยสายกับลูกอยากคุยว่าอะไรคุณแม่ก็บอกว่าแม่รักลูกมาก วันนี้ดีใจมากที่จะได้เจอลูก ที่สำคัญแม่ขอบคุณคนไทยทั้งประเทศที่ให้กำลังใจทั้ง 13 ครอบครัว จนวันนี้ได้รู้ข่าวดีพร้อมกัน”

พูดคุยกับคุณแม่พัชณี คุณแม่น้องเติ้ล ด.ช. ณัฐวุฒิ หนึ่งใน 13ทีมหมูป่า?

คุณแม่ : “ดีใจมากๆ ค่ะ รอเวลาน้องออกมาค่ะ ตอนนี้ยังไม่มีแจ้งว่าจะออกมาเมื่อไหร่ ให้เตรียมรับสถานการณ์ไว้ค่ะ”

ได้นอนบ้างมั้ย?

แม่ : “รู้ข่าวเมื่อคืนก็นอนไม่หลับ ดีใจค่ะ”ฃ

ถ้าวันนี้ได้คุยกับน้องจะพูดอะไรกับน้องเป็นคำแรก?

แม่ : “จะพูดว่าแม่รักลูก คิดถึงลูก อยากจะกอดจะจูบลูกค่ะ”

เมื่อคืนวินาทีทราบว่าน้องเติ้ลปลอดภัย แม่เป็นยังไง?

แม่ : “ตื้นตันใจ พูดไม่ออกค่ะ”

อยากขอบคุณใครบ้างมั้ย?

แม่ : “อันดับแรก ขอขอบพระคุณพระเจ้าอยู่หัวของเรา ร.10เป็นพระมหากรุณาธิคุณมากที่ช่วยเด็กทั้ง 13คน และทุกหน่วยงานไม่ว่าจะผู้ว่าฯ ทหาร ตำรวจ และทุกๆ คน ให้ความสำคัญกับเด็ก 13คน ขอบคุณมากค่ะ”

ทางคุณโทนเองบอกว่าจะบวชเหมือนกัน?

โทน : “3 วันแรกเหมือนงานยากมาก เวลามันบีบ ผมไปบอกเจ้าที่เจ้าทาง ถ้าเจอน้อง 13คนไม่ว่าใครเจอก็แล้วแต่ ผมบวชให้ 7วัน พี่น้องอาสาผมหลายๆ คนก็บวชด้วย ผมเชื่อว่าเราเป็นคนพุทธ เราต้องเชื่อในสิ่งพวกนี้ ขาดไม่ได้เหมือนทีคุณแม่น้องบอก เป็นพระมหากรุณาธิคุณล้นพ้น พระเจ้าอยู่หัวท่านทรงให้ขวัญกำลังใจคนที่อยู่หน้างาน มันคือที่สุด ตื้นตันใจ”