เดือดทุกดอก “ณวัฒน์” ซัด “ชาล็อต” ลืมตัว ตะคอกใส่ ลั่นอายมาก ไม่คิดว่าจะเปลี่ยนไปได้ถึงขนาดนี้!!!

26

เป็นดราม่าร้อนๆ หลังจากมีคลิป “ชาล็อต ออสติน” หน้าเหวี่ยงกลางงานกีฬา MGI ต่อมา “ณวัฒน์ อิสรไกรศีล” ได้อวยพรวันเกิดชาล็อต โดยเผยว่า “ก่อนอื่นก็ขอสุขสันต์วันเกิดครบรอบ 27 ปี โตขึ้นอีกหนึ่งปีนะครับ สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ ขอให้ประสบความสำเร็จกับการทำงานมากขึ้น แต่การจะประสบความสำเร็จในการทำงานมากขึ้นนั้น จะต้องมีสติ และมีสมาธิ และมีความเป็น Professional (มืออาชีพ) มากขึ้นเช่นเดียวกัน เส้นทางในวงการบันเทิง มีองค์ประกอบมากมายที่จะทำให้คนคนหนึ่งสามารถที่จะไปต่อได้ไกลแสนไกล จนกลายเป็นอาชีพทั้งชีวิต ถ้าคนคนนั้นเข้าใจคำว่า ศิลปะ Loyalty (ความซื่อสัตย์) และการเคารพซึ่งกันและกัน

ขอให้ชาล็อตปรับปรุง เปลี่ยนแปลงตัวเอง นับจากวินาทีนี้เป็นต้นไป ขอให้มีความเป็น Professional ขอให้เชื่อฟังผม ในฐานะหัวหน้าสังกัด และการที่เราจะใช้งานชาล็อตเยอะ เพราะเราปั้นให้ชาล็อตดัง เพราะฉะนั้นอยากให้ชาล็อต ถนอมน้ำใจ การพูดจากับทีมงาน และผู้บังคับบัญชาให้มากกว่านี้ เราว่าทุกคนหวังดี และอยากให้ชาล็อตเติบโต แต่ชาล็อตต้องไม่ลืม วันที่เริ่มต้นไม่มีใคร แต่มีเราเป็นคนแรก จนมีใครหลายคนมากมายทั่วโลก ก็เพราะเราเป็นคนขับเคลื่อน ถ้ามีคนอื่นแล้วจะลืมเรา ไม่ใช่คุณสมบัติของคนที่อยู่บนโลก Entertainment ขอให้ปรับปรุงและเปลี่ยนแปลง และขอให้ชีวิตดีขึ้นตลอดไป ถ้าปรับปรุงได้ Happy Birthday ครับ” งานนี้ทำทัวร์ลงณวัฒน์ ว่าทำไมต้องไปพูดต่อหน้าชาล็อตแบบนั้นกลางงานวันเกิด ไม่เหมาะสมหรือไม่

ล่าสุด บอสณวัฒน์ เปิดใจอีกครั้งผ่านไลฟ์สด ระบุว่า “บางอย่างคนเรามันเริ่มลืมตัว ก็ต้องเตือนกัน เราเตือนกันหลังบ้านแล้ว ส่วนตัวหลายครั้ง แต่สิ่งที่ประจักษ์คือวันเสาร์ สิ่งที่เห็นคือการเล่นกีฬา แล้วไปกระแทกคนอื่นเขา แล้วทำสีหน้าที่ไม่ดี แล้วผมให้ออกมาช่วยยืนจายของเพียงแค่ 5 นาที ไม่ยอมออกมา ผมเดินมาพร้อมไมค์ สิ่งที่น้องพูดออกมาดังเข้ามาในไมค์ คนทั้งฮอลล์ได้ยินหมด ลูกน้องผมได้ยินหมด คือ ทำไมต้องมาเรียกแต่หนู คนมีตั้งเยอะตั้งแยะ ทำไมไม่ใช้คนอื่น นั่นคือสิ่งที่ผมคิดว่ามันรุนแรงกับผม

ถามคนในฮอลล์ได้ว่าได้ยินไหม ผมก็ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าหลังๆ น้องมาพูดกับผมแบบนี้ และในเมื่อเราขอแรงมายืนเคาท์เตอร์ขายของเพื่อบริษัท แค่ 5 นาทีไมได้เลยหรอ ใครไปเรียนก็ไม่ออกมา หน้าหงิกและตะโกนใส่ผมต่อหน้าทุกๆ คน คิดว่าความรู้สึกของผมจะเป็นยังไง นอกจากเล่นกีฬา หน้าเหวี่ยงแบบมัน ไม่ควรมี มันเสียคาแรคเตอร์ มาพูดกับผมแบบนี้ใส่ไมค์ เหวี่ยงแบบนี้ได้ไง เหวี่ยงกับลูกน้องผมก็ไม่ได้เล่าให้ฟัง เป็นความลับ ตอนเย็นร้องเพลงคนเายืนรอให้ตังค์ ไม่รับก็สวัสดีเขาดีๆ บอกไม่รับ แต่ไม่รับแล้วโบกแบบนี้ เราเป็นผู้บริหารเราอาย ผู้ใหญ่ก็ถามเป็นอะไร คิดจะรับมีไมค์อยู่ก็พูดไปเรื่อย ดราม่าเยอะแยะ ไม่รับก็พูดดีๆ รับได้ 10 คนถอยขึ้นมาเงินก็ไม่อยากได้แล้ว พูดเหมือนศิลปินไม่เคยถูกค่ายสั่งสอน”