“ใบเตย” ร่ำไห้ขอความเห็นใจ ไม่อยากตอบเรื่อง “ฟิล์ม” สิ่งที่เจอเลวร้ายกว่านั้น!!

12

กรณีที่ “ดีเจแมน พัฒนพล มินทะขิน” แฉดาราตัวจี๊ด เรียกเงินตนและ ใบเตย อาร์สยาม คนละ 7 ล้าน รวม 14 ล้าน หากอยากรอดคดี Forex-3D งานนี้ดีเจแมนมีการเผยว่าเป็นดาราที่กำลังเป็นข่าว และหลุดพูดชื่อ “ฟิล์ม” ระหว่างโฟนอินในรายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ทำให้ชาวเน็ตพุ่งเป้าไปที่ “ฟิล์ม รัฐภูมิ โตคงทรัพย์” ขณะที่ฟิล์มยืนยันไม่ใช่ตนเอง ถ้าทำจริงคงไม่คบใบเตยถึงตอนนี้ จนแมนออกมาฟาดต่อว่ากฎแห่งกรรมมีจริง เร็วๆ นี้แน่นอน ลั่นมีหลักฐาน ฟิล์มออกมาสวนกลับว่ามีหลักฐานเหมือนกัน แต่ยังไม่เปิดตอนนี้

ล่าสุด ใบเตย ออกรายการแฉ วันที่ 13 ก.พ.68 เจ้าตัวร้องไห้น้ำตาแตก ไม่อยากพูดถึงเรื่องที่ผ่านมา เพราะเจ็บปวดหัวใจ

“ไม่อยากพูดเยอะ วันนี้อยากขอความเห็นใจจากพี่ๆ ทุกคน ชีวิตหนูมันแย่มาตลอดมันเจออะไรร้ายๆ มาตลอด วันนี้อะไรไปแตะต้องเรื่องราวแย่ๆ หรือโยงคนอื่นอีก ไม่อยากข้องเกี่ยวเลย ที่ผ่านมามันปวดหัวใจหนูมาก กับทุกเหตุการณ์ เครียดมาก เราเป็นซึมเศร้าหนักมากด้วย พอเจออะไรแบบนี้อีก เหมือนภาพเก่าๆ เดิมๆ มันกลับมา ที่ต้องมานั่งพูด นั่งหวาดระแวง นั่งกลัวกับการเจออะไรแบบนี้ อยากขอความเห็นใจ”

“ใบเตยทำงานทั้งวันตั้งแต่เช้า ไม่ได้รู้ดีเทลอะไรมากมาย หนูอยากแยกแยะทุกอย่างในชีวิตให้ดีที่สุด รู้สึกว่าเห็นใจหนูหน่อย หนูไม่ไหว (เสียงสั่น) กับการที่ต้องมานั่งเจออะไรแบบนี้อีก ถามว่าสิ่งที่เจอ ที่ได้รับรู้กันไป ไม่ว่าเรื่องอะไรก็แล้วแต่ สิ่งที่หนูเจอเลวร้ายกว่านั้น หนูเจอมากกว่านั้นเยอะมาก อันนั้นไม่ได้เลวร้ายที่สุด หนูเจออะไรหลายอย่างการกระทำ ลักษณะนี้ ใครมีคดี คิดว่าเจอเหมือนกันหมด ใบเตยได้รับดีเอ็มเยอะมาก ว่าเคยมีคนเจอเหตุการณ์ลักษณะนี้หมด ใบเตยไม่เคยได้เล่าใครว่าหนูเจอและครอบครัวเจอเยอะมากๆ ไม่ใช่แค่เป็นใคร เจอทุกรูปแบบ ทุกอาชีพ อันนี้ไว้เป็นอุทาหรณ์ว่าอาชีพนี้มีอยู่จริง ขนาดหนูอยู่ข้างในหนูยังเจอ เป็นเรื่องที่เราไม่อยากจำมาตลอดค่ะ คนหยิบยื่นความช่วยเหลือแต่หวังผลประโยชน์ หลายๆ ชนชั้นในวันที่เราเจอคดี ใครเจอคดีแล้วมีชื่อเสียง หรือเป็นคดีดังๆ หน่อย ก็คิดว่าจะโดนแบบนี้”

“ไม่ได้คุยดีเทลอะไรมากกับพี่ฟิล์ม ตอนนี้ไม่ได้อ่านรายละเอียดสองฝั่ง ว่าเริ่มต้นจากอะไร และจบที่ตรงไหน แต่ตอนนี้หนูไม่รู้จะพูดอะไร ต้องบอกแบบนี้ ไม่อยากพูดถึงมันด้วย และรู้สึกว่ามันมีผลกระทบกับจิตใจหนู หมายถึงให้หนูไปนั่งพูดเกี่ยวกับอะไรแบบนี้เดิมๆ ภาพเดิมๆ มันแย่”

“ที่พี่แมนบอกว่าคนกันเองอยู่ในบริบทเดียวกัน ทำวงการเดียวกัน แต่เหมือนจมน้ำแล้วโยนเชือกมา แต่ไม่รู้เชือกดึงได้หรือเปล่า ถามว่าอยากพูดยังไง มุมใบเตย อะไรที่เกิดขึ้นแล้ว มันทำให้ชีวิตเราต้องกลับไปเจออะไรแบบเดิมๆ หนูรู้สึกว่าอยากให้จบลงตรงนี้ หนูไม่ได้ดูดีเทลหรือรายละเอียดอะไรจากทั้งสองฝั่ง ถ เห็นใจหนู ก็อยากให้ข้ามผ่านมันไป แล้วไม่อยากพาดพิงถึงใครอีกแล้ว หนูได้ออกมามีชีวิตอิสระแล้ว วันนี้ไม่อยากยุ่งหรือข้องเกี่ยวกับใครในส่วนนี้อีกเลย เราอยู่เฉยๆ มาตลอด”

“ถามว่ายังติดค้างในใจไหม ที่เจอปัญหาหนักๆ เขาอาจไม่ได้ทำก็ได้ มีคนมาเรียกร้องเงินจากเรา ไม่เคยติดค้างใจอีกเลย ใบเตยไม่เคยโทษใครเลย เรารู้สึกว่ามันคือวิบากกรรมของชีวิตเรา ย้อนกลับไปหนูก็ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้เลยในวันนั้น ไม่สามารถหลีกเลี่ยงไม่ให้เจอหรือปะทะได้เลย หนูเจอตั้งแต่เรื่องพี่แตงโม มาเป็นพี่สาวหนูอีกคนเจอคดีเดียวกัน แล้วมาเป็นหนู มันพังมาตั้งแต่ ณ วันนั้นมันเลวร้ายมาตั้งแต่ ณ วันนั้น หนูเข้าไปในนั้นอีก เลวร้ายหนักกว่า หนูต้องถูกพรากลูก น้องเขยหนูตาย มันแย่มาก ถ้าตายได้หนูก็อยากตายนะ (ร้องไห้)”

เป็นผู้ป่วยจิตเวช
“หลังเจออะไรมาเยอะๆ หนูรู้สึกว่ามีธรรมะในหัวใจมากขึ้น อยู่ในนั้นเราสวดมนต์วันละ 4 เวลา จากสวดไม่ได้เลย หนูสวดได้ทุกบท นิ่งขึ้น อาจเป็นเอฟเฟกต์ที่ต้องกินยา เป็นผู้ป่วยจิตเวช เป็นตั้งแต่เข้าไปเลย รักษาตั้งแต่อยู่ในนั้น พบนักจิตตลอด เป็นตั้งแต่เริ่มเข้าในเรือนจำ รักษาตลอด ทุกวันนี้ก็ต้องกินยา หนัก อยู่คนเดียวไม่ได้ หนักสุดก็จะคิดฆ่าตัวตายตลอด”

“ทุกวันนี้กินยาเยอะ เพื่อรักษาเคมีในสมอง แก้เศร้า ต้านเศร้าไม่ให้ร้องไห้ เราได้รับผลกระทบทางจิตใจเยอะ ยิ่งเป็นเรา มีชื่อเสียง มันก็มากกว่าปกติ หนูเจอสิ่งที่หนักมากสำหรับหนูคือการสูญเสีย การจากตายของแฟนลุกซ์ ต้องเข้าใจว่าคู่หนูกับคู่ลุกซ์คบมาคู่กัน วันเกิดเหตุการณ์ เขาไปทั้งคู่ โห ยิ่งกว่าช็อก เราอยู่ในนั้น ณ วันนั้นเราไม่รู้อะไรเลย ทุกคนไม่มีใครกล้าบอกเรา เรารู้จากคนในนั้น หนูเป็นลมอยู่ในนั้นเลย (เสียงสั่นเครือ)ทุกวันนี้ต้องรีบเข้มแข็ง บางทีใบเตยเหม่อ ลูกก็ถามตลอด ก็พยายามมากๆ”